นายนิพนธ์ ฮะกีมี รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ในฐานะวิปรัฐบาล ชี้แจงภายหลัง คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) ได้เชิญคณะกรรมการกฤษฎีกาเข้าชี้แจงกรณีคำสั่งให้ออกจากราชการนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบในสมัยรักษาราชการปลัดกระทรวงมหาดไทย กรณีที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์จะเข้าข่ายได้รับประโยชน์จาก พ.ร.บ.ล้างมลทิน พ.ศ.2550 หรือไม่ว่า กรณีนายยงยุทธ เข้าข่ายได้รับประโยชน์จาก พ.ร.บ.ล้างมลทิน พ.ศ.2550 โดยคณะกรรมการกฤษฎีกาได้เทียบเคียงกับกรณีของนายตำรวจที่ถูกลงโทษด้วยการไล่ออกจากราชการเมื่อปี 33 และเข้าข่ายมาตรา 5 ของ พ.ร.บ.ล้างมลทินปี 2530 โดยพ.ร.บ.ดังกล่าวมีคำสั่งให้ย้อนหลังไปในขณะที่นายตำรวจคนนั้นยังรับราชการ
ดังนั้นกรณีของนายยงยุทธ จึงมีผลย้อนหลังไปตั้งแต่ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการปลัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อปี 45 ส่งผลให้นายยงยุทธเข้าข่ายใช้ พ.ร.บ.ล้างมลทินปี 2550 ล้างความผิดได้
ขณะที่ความเห็นของคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(กพ.) ซึ่งส่งมายังรัฐบาล ได้เทียบเคียงกรณีนายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ ในความผิดส่งเสือโคร่งไปจีน แต่แตกต่างกันที่นายปลอดประสพ ยังไม่ได้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
นายนิพนธ์ ยืนยันว่าความเห็นของกฤษฎีกาและ กพ.ไม่ใช่ความเห็นใหม่ แต่หยิบยกความเห็นเดิมมาเทียบเคียงโดยยึดหลักข้อกฏหมายและข้อเท็จจริง ก่อนเสนอความเห็นต่อนายกรัฐมนตรี
ด้านนายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ที่ประชุมวิปรัฐบาลมีมติยืนยันตามความเห็นของกฤษฎีกาและกพ. ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความนั้นถือว่าเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ยอมรับว่ากังวลถึงการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระ ซึ่งอาจมีการวินิจฉัยที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม