น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการหารือเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี มีแต่เพียงการแบ่งงานในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย แทนนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ ที่ลาออกไปเท่านั้น เนื่องจากรัฐบาลต้องการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชนก่อน โดยเฉพาะได้เร่งให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดูแล และเตรียมรับมือกับพายุที่จะเข้าประเทศไทย และมอบให้นายชัชชาติ สิทธิ์พันธ์ รมช.คมนาคมดูแลปัญหาจราจร
"ยังไม่ได้คุยเรื่องปรับคณะรัฐมนตรี ขอเร่งแก้ไขปัญหาให้ประชาชนก่อน เรายังทำงานตามปกติ"
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึงมาตรการเตรียมการรองรับพายุที่จะเข้าประเทศไทยในช่วง 5-8 ต.ค.นี้ว่า ในส่วนของรัฐบาลได้เตรียมการพร่องน้ำในเขื่อนเอาไว้ รวมถึงกำชับเร่งขุดลอกคูคลองและท่อระบายน้ำ โดยรัฐบาลยินดีให้หน่วยงานต่างๆ ร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร ส่วนการระบายต้องเร่งระบายน้ำกรุงเทพฝั่งตะวันออกเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้ได้มีการเคลื่อนย้ายเครื่องสูบน้ำไปยังจุดที่อาจจะเกิดน้ำท่วมได้
ส่วนเรื่องการรับจำนำข้าวหลังจากมีกลุ่มอาจารย์จากสถาบันนิด้ายื่นศาลรัฐธรรมนูญขอให้มีการยกเลิกโครงการรับจำนำข้าวนั้น นายกฯ กล่าวว่า พร้อมจะรับฟังข้อคิดเห็นต่างๆ เพื่อนำไปปรับปรุงให้โครงการนี้ดียิ่งขึ้น และมองว่าปัญหาของโครงการนี้อาจจะไม่ได้เกิดจากแนวนโยบายหรือขั้นตอนการทำงาน แต่อาจจะเกิดจากเจ้าหน้าที่ซึ่งต้องขอเวลาค่อยๆ ปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
"ต้องขอเวลาค่อยๆปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ของบางอย่างไม่สามารถออกมาเพอร์เฟ็คต์ 100% คงต้องปรับ อยากให้พิจารณาในประโยชน์โดยรวมเป็นที่ตั้ง ส่วนตรงนี้ก็จะน้อมรับไปปรับปรุงแก้ไข"นายกรัฐมนตรี กล่าว
ทั้งนี้ ยืนยันว่า การดำเนินโครงการนี้ไม่ได้ต้องการขายข้าวแข่งกับเอกชน แต่สิ่งที่รัฐบาลทำเพื่อต้องการให้การรับจำนำข้าวสอดคล้องกับอุปสงค์อุปทาน และต้องสามารถมีแหล่งระบายข้าวได้ ถ้าสมมติไม่ทำด้วยระบบนี้ข้าวต่างๆที่เหลือในท้องตลาดราคาตกแน่นอน ไม่มีทางปรับตัวขึ้นมาได้
แต่อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีปฏิเสธที่จะวิพากษ์วิจารณ์ว่าโครงการนี้ทำให้พ่อค้าขายข้าวเสียผลประโยชน์หรือไม่ แต่ก็ยอมรับว่าอาจจะมีบ้างที่ได้รับผลกระทบ ส่วนการดำเนินโครงการนี้จะทำให้รัฐบาลขาดทุนมากน้อยเพียงใดต้องให้ทางกระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขมาก่อน