น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และตำแหน่ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อรัฐบาล โดยขณะนี้ภายในพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้หารือกันถึงบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแทนนายยงยุทธ ซึ่งตามขั้นตอนแล้วกรรมการบริหารพรรคจะต้องนัดประชุมหารือกันก่อน และเชื่อว่าในพรรคเพื่อไทยมีบุคลากรที่มีความสามารถเหมาะสมหลายคน
นายกรัฐมนตรี มองว่า การตัดสินใจลาออกของนายยงยุทธ ไม่ได้เป็นเพราะถูกกดดันหรือเป็นเพราะสาเหตุมาการถูกชี้มูลความผิดจากคดีที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ แต่เชื่อว่าเป็นเจตนารมย์ของตัวนายยงยุทธเองมากกว่าที่ไม่ต้องการให้ใครมาเป็นห่วง และส่วนตัวรู้สึกเสียดายนายยงยุทธ เพราะที่ผ่านมาได้ทำงานทุ่มเทให้กับพรรคมาอย่างดี พร้อมหวังว่าในโอกาสหน้าคงจะเข้ามาช่วยงานในด้านอื่นๆ ได้ เพราะเป็นบุคคลที่มีความสามารถ
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ยังสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ไม่ว่าการบริหารงานในประเทศและการเมืองภายในพรรค โดยจะขอทุ่มเททำงานอย่างสุดความสามารถ
"เรียกได้ว่าทำเต็มที่ ดิฉันยังแข็งแรง ก็จะทำด้วยความทุ่มเทจนสุดความสามารถที่มี" นายรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนกรณีที่ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในต่างประเทศนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า จะไม่มีผลต่อการตัดสินใจปรับคณะรัฐมนตรี หรือไม่เป็นผลต่อการเพิ่มแรงกดดันในการตัดสินใจปรับคณะรัฐมนตรี โดยขณะนี้ยังไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรี และย้ำด้วยว่าในการปรับคณะรัฐมนตรีหรือการเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั้นการตัดสินใจจะอยู่ที่เมืองไทย
"การที่ ส.ส.บินไปพบ(พ.ต.ท.ทักษิณ) เป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องครม.คงไม่สามารถไปหารือตรงนั้นได้ ตอนนี้ยืนยันเหมือนเดิมว่าไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรี...ทุกอย่างมีกระบวนการและกลไก ท่าน(พ.ต.ท.ทักษิณ)ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยว ทุกอย่างอยู่ที่เมืองไทยทั้งการตั้งคณะรัฐมนตรี และการเลือกหัวหน้าพรรค" นายกรัฐมนตรี ระบุ
ส่วนกรณีที่อาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกมาคาดการณ์ว่ากทม.มีจุดเสี่ยงน้ำท่วมขังสูง 20-30 ซม. นาน 2-3 สัปดาห์จากผลของพายุโซนร้อนแกมีที่จะพัดเข้ามายังกทม.นั้น นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า หากจะมีน้ำท่วมเกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ ก็คงไม่ท่วมขังสูง 20-30 ซม. หรือเป็นระยะเวลาตามที่อาจารย์จุฬาฯ ประเมินไว้ แต่ยอมรับว่าอาจจะเกิดน้ำท่วมขังได้แต่คงเป็นบางพื้นที่ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากปริมาณฝนที่มีมากในปีนี้
พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมจะร่วมงานกับกทม.อย่างเต็มที่ไม่เปลี่ยนการทำงาน แต่ขอให้ทุกคนช่วยกันคนละไม้คนละมือ และเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.)ไม่มีผลกระทบต่อการทำงานในการแก้ปัญหาน้ำท่วม เพราะเชื่อว่าทุกคนสามารถแยกแยะบทบาทในการทำงานได้ การเลือกตั้งก็เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย แต่บทบาทหน้าที่ในการช่วยเหลือประชาชนก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำร่วมกัน