นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 8 ต.ค.นี้ พรรคเพื่อไทยจะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อคัดเลือกผู้ที่จะมาทำหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทยแทนนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ที่ได้ลาออกไปก่อนหน้านี้ ขณะที่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริงนั้นคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนกว่าจะรู้ผล
พร้อมระบุว่า หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ต้องเก่งงานด้านบริหารไม่เน้นเก่งการเมือง และไม่จำเป็นต้องเป็นนักการเมืองมืออาชีพ แต่ต้องมีความรอบรู้ และที่สำคัญต้องได้รับการยอมรับจาก ส.ส.ภายในพรรคด้วย ซึ่งอาจจะเป็นหรือไม่เป็นสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ก็ได้
"ต้องเป็นคนที่เก่งงานด้านบริหารไม่เน้นเก่งการเมือง มีความรอบรู้มีประสบการณ์เป็นผู้ใหญ่ ที่สำคัญต้องได้รับการยอมรับจาก ส.ส. 260 กว่าคนด้วย โดยผู้ที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคจะต้องได้รับฉันทานุมัติ มีภาพลักษณ์ของผู้บริหาร สามารถบริหารงานได้ ซึ่งอาจจะไม่ใช่นักการเมืองมืออาชีพก็ได้" นายนพดล กล่าว
นายนพดลกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ รู้สึกเสียดายที่นายยงยุทธลาออก แต่ได้แสดงความชื่นชมในสปิริตที่เสียสละเพื่อพรรคและรัฐบาล เพราะเข้าใจว่านายยงยุทธ ไม่อยากให้คุณสมบัติของตัวเองต้องถูกใช้เป็นข้อโจมตีทางกฎหมาย อีกทั้งนายยงยุทธ อยากเห็นน.ส.ยิ่งลักษณ์ มีสมาธิในการบริหารประเทศ เพราะถ้าไม่มีประเด็นขัดข้องทางกฎหมายแล้ว นายยงยุทธก็พร้อมที่จะกลับมาได้
ขณะที่การปรับคณะรัฐมนตรีนั้น นายนพดล คาดว่าคงจะไม่ใช่ภายในเดือนต.ค.นี้ แต่น่าจะปรับหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้นแล้ว เพื่อให้ได้เห็นผลการทำงานของรัฐมนตรีแต่ละคนก่อน ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันว่าเป็นอำนาจการตัดสินใจของน.ส.ยิ่งลักษณ์
"ไม่น่าจะปรับในเดือนตุลาคมนี้ ผมเดาว่าน่าจะปรับ ครม.หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลมากกว่า เพื่อจะดูว่ารัฐมนตรีท่านใดทำงานเป็นอย่างไร เหมือนมีคนมาช่วยตรวจข้อสอบการบ้านรัฐมนตรีด้วย การปรับก็คงปรับไม่ปรับแค่ รมว.มหาดไทยเพียงตำแหน่งเดียว แต่เข้าใจว่านายกฯ จะใช้โอกาสนี้ดูการทำงานในหลายกระทรวง ดังนั้น ถ้าปรับ ครม.ก็ต้องถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นหลัก" นายนพดล กล่าว
อนึ่ง มีรายงานข่าวว่า ส.ส.หลายคนของพรรคเพื่อไทยได้ทยอยเดินทางไปพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เกาะฮ่องกงในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดย พ.ต.ท.ทักษิณ จะใช้เวลาอยู่ที่ฮ่องกง 2-3 วัน ก่อนเดินทางไปอังกฤษและดูไบ