นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ชี้แจงกรณีรัฐบาลจะให้องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซา) ของสหรัฐ ใช้พื้นที่สนามบินอู่ตะเภา ในโครงการศึกษาการก่อตัวของเมฆ ที่มีผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน" วันนี้ ว่า เรื่องนี้ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แล้ว ดังนั้น การที่มีบางฝ่ายออกมาโจมตีว่า หากให้นาซาใช้สนามบินอู่ตะเภาแล้วจะกระทบกับความมั่นคง ถือเป็นการบิดเบือนข้อมูล และโจมตีรัฐบาลให้เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยเฉพาะการกล่าวหาว่า รัฐบาลยอมให้นาซาเข้ามาดำเนินโครงการ เพื่อแลกกับวีซ่าสหรัฐ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือจะทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างจีน อินเดีย และสหรัฐ
"สนามบินอู่ตะเภาอยู่กลางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และขีดความสามารถของนักวิทยาศาสตร์ไทยก็ก้าวหน้า โครงการดังกล่าวไม่เกี่ยวกับความมั่นคงและกองทัพสหรัฐ แต่เป็นการวิจัยด้านอากาศ กัมพูชา สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็ให้การสนับสนุน ดังนั้น การใช้การเมืองบิดเบือน จึงทำให้ประเทศเสียโอกาสในการพัฒนางานด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี" นายสุรพงษ์ กล่าว
ด้านนายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ยืนยันว่า การศึกษาโครงการดังกล่าวจะทำให้ประเทศไทยได้ประโยชน์ในการคำนวณสภาพภูมิอากาศได้อย่างแม่นยำ จะทำให้การป้องกันทำได้ทันท่วงที ถือว่ามีความจำเป็นต่อการคำนวณปริมาณฝนและการพยากรณ์อากาศ และการที่ใช้สนามบินอู่ตะเภา เพราะเป็นการศึกษาชั้นอากาศทางทะเล ดังนั้น จึงไม่มีเรื่องการสอดแนม แม้จะมีการใช้เครื่อง ER2 ซึ่งเคยเป็นเครื่องบินสอดแนม มาใช้ในการศึกษา เพราะได้มีการดัดแปลงเครื่องบินดังกล่าว มาใช้ในงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์แล้ว หากผู้ที่คัดค้านติดใจ ก็ยินดีให้ตรวจสอบ และร่วมบินสำรวจด้วย