นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ สส.กทม.และ วิปรัฐบาล กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ควรออกมากดดันการทำงานกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ในการพิจารณาคดีที่ส่วนราชการกรุงเทพมหานคร ไปว่าจ้างบริษัทลูกของตัวเองให้ไปจ้างบริษัทเอกชนอีกทอดในการดำเนินโครงการรถไฟฟ้า BTS ต่อไปล่วงหน้าอีก 13 ปี ที่จะมีการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษในวันพุธที่ 10 ตุลาคม นี้
"แปลกใจว่าพรรคประชาธิปัตย์เหตุใดจึงส่งสัญญานให้ นายสกลธี ภัทธิยกุล รองโฆษกออกมากดดันคณะกรรมการพิจารณาคดีพิเศษ เพราะก่อนหน้านี้พูดกันเป็นแบบหนังคนละม้วน เมื่อหลายเดือนก่อนที่บอกว่าอธิบดีดีเอสไอไม่ควรพิจารณาเองควรให้รอคณะกรรมการคดีพิเศษพิจารณา พอวันนี้คณะกรรมการฯจะพิจารณากลับบอกไม่ใช่เรื่องของคณะกรรมการคดีพิเศษของ DSI เป็นเรื่องของ ป.ป.ช.คณะกรรมการคดีพิเศษ DSI ไม่มีอำนาจ"
ส่วนเรื่องที่มีการร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้เอาผิดต่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.กับพวก และนายประพันธ์พงศ์ เวชชาชีวะ ประธานกรรมการ และนายอมร กิจเชวงกุล ผู้อำนวยการวิสาหกิจ ของกทม.คือ บริษัทกรุงเทพธนาคม ซึ่งเป็นข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยตรงตามมาตรา 157 ที่ไปยินยอมให้ มีการเซ็นสัญญาทำให้รัฐเสียประโยชน์หรือไม่ ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์ไม่ควรออกมากดดันทั้ง ป.ป.ช. และ DSI ในเรื่องนี้ปล่อยให้คณะกรรมการเขาทำงานกันไป หากไม่ผิดจริงก็ไม่ควรจะร้อนตัว
"ในวันที่ 11 ตุลาคมนี้ ตนจะไปยื่นร้องเรียนเพิ่มเติม ต่อป.ป.ช.หลังพบข้อมูลเพิ่มเติมในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาต่อ ป.ป.ช.เนื่องจากพบสิ่งผิดปรกติ มีความพยายามบางอย่างเพื่อเป่าคดี และเพื่อให้ ป.ป.ช.ได้พิจารณาอย่างรอบคอบ และ รัดกุมจน หาตัวผู้กระทำผิดให้ได้ชนิดดิ้นไม่หลุด" นายจิรายุ กล่าว