นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ยอมรับเดินทางไปเกาะฮ่องกงกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ และได้พบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ปฏิเสธว่าไม่มีการหารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี เพียงแต่ไปพบเพื่อเยี่ยมเยียนตามปกติ
"ยืนยันด้วยเกียรติและศักดิ์ศรี การไปเที่ยวนี้ไม่ได้พูดถึงเรื่องปรับหรือไม่ปรับครม. หรือเรื่องตำแหน่งทางการเมืองแม้แต่น้อย"นายณัฐวุฒิ กล่าว พร้อมระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้แสดงความเป็นห่วงไปถึงกลุ่มคนเสื้อแดงที่ได้รับปาดเจ็บและยังถูกจองจำอยู่ และฝากให้ทุกคนดูแลซึ่งกันและกัน
ส่วนกระแสข่าวที่นายจตุพร จะเข้ามารับตำแหน่ง รมว.มหาดไทยนั้น ไม่ขอแสดงความคิดเห็น แต่เชื่อว่าว่านายจตุพร มีความเหมาะสมในทุกด้าน แต่ทั้งนี้ในท้ายสุดแล้วก็เป็นอำนาจการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี
ส่วนนโยบายรับจำนำข้าวที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่นั้น นายณัฐวุฒิ ยืนยันว่า โครงการรับจำนำข้าวเป็นโครงการที่ดี แต่ตราบใดที่ชาวนาได้รับประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาลถือว่ารัฐบาลมาถูกทางแล้ว ส่วนการส่งออกข้าวก็ไม่ได้ชะงัก แต่รัฐบาลต้องการปรับวิธีการยกระดับชาวนาให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมช่วยการตระตุ้นการบริโภคภายในประเทศทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้ดีขึ้น
ทั้งนี้ การที่มีนักวิชาการออกมาวิพากษ์วิจารณ์และมีการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญนั้น นายณัฐวุฒิ มองว่า การดำเนินโครงการเป็นอำนาจการตัดสินใจของฝ่ายบริหาร ซึ่งการออกมาวิพากษ์วิจารณ์เป็นปกติ เพียงแต่กลไกลของศาลคงไม่สามารถที่จะมาชี้ว่าสามารถทำได้หรือไม่ พร้อมมองว่านักวิชาการที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ควรศึกษารวบรวมข้อมูลตามข้อเท็จจริงและอธิบายด้วยหลักการและเหตุผล ขณะเดียวกัน รมว.พาณิชย์แม้จะพร้อมชี้แจง แต่ก็ต้องเปิดใจรับฟังด้วย
ส่วนกรณีที่นักวิชาการออกมาวิพากษ์วิจารณ์โครงการถนนยางพาราที่มองว่าไม่เป็นการส่งเสริมยางพาราในประเทศนั้น รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า โครงการนี้ถือเป็นต้นแบบที่รัฐบาลจะใช้ดำเนินการในการก่อสร้างถนนยางพาราในระยะทาง 19 กม. ที่นครศรีธรรมราช ซึ่งหากผลการก่อสร้างออกมาแล้วทุกคนยอมรับว่ามีความปลอดภัยคงทนและมีความคุ้มค่า ก็น่าจะเป็นประโยชน์ที่จะนำไปก่อสร้างถนนเส้นอื่นได้