พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เตรียมหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยฝ่ายรัฐจะเปลี่ยนไปใช้ยุทธวิธีเชิงรุกให้มากขึ้น ดีกว่าการตั้งรับเพียงอย่างเดียว รวมถึงจะได้ประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านให้เข้ามาช่วยเหลือ โดยช่วงต้นเดือน พ.ย.จะส่งผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ ไปหารือร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน
ทั้งนี้ รัฐบาลจะต้องแก้ไขปัญหาดังกล่าวเพื่อดูแลให้ชาวไทยพุทธสามารถทำมาหากินในพื้นที่ดังกล่าวได้ และให้ชาวไทยมุสลิมสามารถออกมาทำงานได้ด้วยความรู้สึกปลอดภัย โดยจะเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลพื้นที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ 5,000 นาย อาสาสมัครรักษาดินแดน 2,700 คน และเจ้าหน้าที่ทหารทั้งหมด 40,000 นาย เพื่อดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ก่อนให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) ทำงานด้านการพัฒนาต่อไป
"รัฐบาลจะพยายามดูแลรักษาความปลอดภัยให้ชาวบ้านเกิดความมั่นใจในการออกมาใช้ชีวิตประจำวัน และเชื่อว่าขาวมุสลิมมีความเข้าใจดี เพราะได้มีการจัดพิมพ์เอกสารของจุฬาราชมนตรี เพื่อทำความเข้าใจในพื้นที่" พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าว
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ในขณะนี้เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น บรรดาร้านค้าต่างๆ เริ่มกลับมาเปิดให้บริการบ้างแล้ว คิดเป็นประมาณ 30% ของจำนวนร้านค้าในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ หลังจากก่อนหน้านี้มีคนร้ายใช้ใบปลิวข่มขู่ร้านค้าไม่ให้เปิดบริการในทุกวันศุกร์ โดยพบว่าจังหวัดปัตตานีสามารถเปิดให้บริการมากขึ้น ขณะที่จังหวัดยะลาและนราธิวาสยังเปิดให้บริการน้อยอยู่ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าร้านค้าจะสามารถเปิดทำการในวันศุกร์ได้ตามปกติได้ภายในเดือน พ.ย.นี้
"คาดว่าเดือนพฤศจิกายนจะดีกว่าเดิม และเข้าสู่ภาวะปกติให้ได้ ต้องทำให้ได้" พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าว
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ระบุว่า ได้รับรายงานทางด้านการข่าวพบว่า ใบปลิวและการสั่งการต่างๆ มาจากบางรัฐจากนอกประเทศ ไม่ใช่การสั่งการในประเทศไทย โดยมีความพยายามใส่ร้ายเจ้าหน้าที่รัฐว่าเป็นต้นเหตุของใบปลิวดังกล่าว ซึ่งยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ยุทธศักดิ์ ยังกล่าวว่า กลุ่มก่อความไม่สงบได้พัฒนาการวิธีการก่อเหตุ โดยความพยายามสร้างสถานการณ์ความรุนแรงเพื่อบีบคั้นและกดดันให้ชาวไทยพุทธย้ายออกจากพื้นที่ และพยายามทำลายชวัญและกำลังใจของประชาชนในพื้นที่ทั้งชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิมให้เกิดความหวาดกลัว
สำหรับกระแสข่าวกรณีที่นายบารัก โอบามา ประธานนาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะเดินทางมาเยือนประเทศไทยในเดือน พ.ย.นี้นั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ ระบุว่า ยังไม่ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการ เนื่องจากยังอยู่ในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนใหม่ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่า หากจะเดินทางมาในไทย ก็คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเสร็จสิ้นไปแล้ว ซึ่งต้องรอประสานอย่างเป็นทางการแต่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่อยู่ในแผนที่จะมีการเดินทางมาเยือนในกลุ่มประเทศอาเซียน
"ยังไม่มีการประสานเป็นทางการ...การประสานงานต้องรอก่อน ถ้าจะมาในอาเซียนมีแผนมาเยือนประเทศไทย ผมว่าอาจไม่ได้มาเดือนพฤศจิกายน อาจต้องหลังผลเลือกตั้ง" พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าว