ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นรับไต่สวนคำร้องของแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ยื่นฟ้องอดีตอัยการสูงสุด(อสส.) และรองอัยการสูงสุด กรณีมีความเห็นแย้งอัยการเจ้าของสำนวนสั่งฟ้องคดีบุกบ้านสี่เสาเทเวศร์
คดีนี้สืบเนื่องจากนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายวิภูแถลง พัฒนาภูมิไท, นพ.เหวง โตจิราการ, พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย, นายจรัล ดิษฐาอภิชัย, นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ จำเลยในคดีร่วมกันก่อความวุ่นวายที่บริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ ร่วมกันเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายชัยเกษม นิติสิริ อดีตอัยการสูงสุด และนายถาวร พานิชพันธ์ รองอัยการสูงสุด เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
คำฟ้องโจทก์สรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 1-14 ส.ค.52 จำเลยที่ 1 ซึ่งดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดในขณะนั้น และจำเลยที่ 2 เป็นรองอัยการสูงสุด ปฏิบัติหน้าที่แทนอัยการสูงสุด เป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดความเห็นแย้งกับพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 ที่สั่งไม่ฟ้องจำเลยกับพวกรวม 15 คน ในคดีมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ กรณีนำกลุ่ม นปช.ไปชุมนุมก่อความวุ่นวายที่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 ก.ค.50
ทั้งนี้ ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่อัยการจะใช้ดุลยพินิจในการวินิจฉัยคดีไปในทางใดนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละบุคคลและต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ซึ่งบรรยายฟ้องของโจทก์นั้นเข้าองค์ประกอบว่าจำเลยกระทำการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ อุทธรณ์โจทก์ฟังขึ้น จึงพิพากษากลับให้ศาลชั้นต้นรับคำร้องโจทก์ไว้ไต่สวนมูลฟ้อง และมีคำสั่งคดีต่อไป