นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่าการประชุมพรรคในวันพรุ่งนี้ (15 ต.ค.ก55) พรรคจะเปิดตัว อดีตข้าราชการ 4 เหล่าทัพ ที่สมัครเป็นสมาชิกพรรค ทั้งอดีตข้าราชการ ทหาร ตำรวจ โดยเฉพาะเตรียมทหารรุ่น 10 อย่าง พล.ร.อ.รุ่งรัตน์ บุณยรัตพันธุ์ อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.อภิชาติ ทิมสุวรรณ อดีตผู้อำนวยการศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร พล.อ.สหชาติ พิพิธกุล อดีตเจ้ากรมการแพทย์ทหารบก พล.ต.ท.ธนากร ศิริอัฐ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล และ พล.อ.อ.ธงชัย ธารนพ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษทหารอากาศ เป็นต้น และรวมถึง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค เพื่อมาร่วมกันเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการทำงานให้กับพรรค เพื่อเดินหน้าทำงานเพื่อประชาชน และเป็นการแก้ข้อครหาจากฝ่ายตรงข้ามที่กล่าวหาว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีความจงรักภักดี
"การมาของสมาชิกใหม่จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามยุติการเอาประเด็นเรื่องความไม่จงรักภักดีไปขยายผล เพราะสมาชิกใหม่มาจากอดีตข้าราชการจาก 4 เหล่าทัพที่เคยรับราชการด้วยความจงรักภักดี" นายพร้อมพงศ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมปรึกษาสภาทนายความเพื่อสั่งฟ้องคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 7 ตุลาคม 51 หลังที่อัยการสูงสุดมีความเห็นไม่สั่งฟ้องนั้น ตนเองมีความเชื่อมั่นในการทำงานของ ป.ป.ช. และกำลังจับตาดูการทำงานของมี 2 มาตฐานหรือไม่ เพราะคดีสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงปี 53 จนถึงวันนี้ ป.ป.ช. พิจารณาคดีมา 2 ปีแล้วยังไม่มีความคืบหน้า
อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ ตนเองจะยื่นหนังสือถึง ป.ป.ช. เพื่อเร่งรัดคดีการสั่งสลายการชุมนุมปี 53 ของนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตผู้อำนวยการศูนย์แก้ไขสถานการณ์ในสภาวะฉุกเฉิน (ศอฉ.) เพราะไม่อยากให้ ป.ป.ช. ทำงาน เลือกปฏิบัติ พร้อมยืนยันว่าการเดินหน้ายื่นหนังสือครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง
ส่วนการที่พรรคประชาธิปัตย์ จัดแรลลี่ตามหาชายชุดดำเห็นว่าเป็นเรื่องไร้สาระ และทำให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเกิดความเดือดร้อน และและเป็นการเพิ่มความขัดแย้งของสังคม ซึ่งระยะเวลา 2 ปี 8 เดือน ที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ยังไม่สามารถตามหาชายชุดดำได้ และการออกมาจัดกิจกรรมเช่นนี้เป็นการโยนบาปชายชุดดำเพื่อหวังช่วยนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ใช่หรือไม่