นายนิกร จำนง ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เร่งรัดให้มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ประโยชน์ในการขึ้นทะเบียนและรับรองเกษตรกร เพื่อให้การดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลในการรับจำนำข้าวเปลือกเป็นไปด้วยความโปร่งใสและตรวจสอบได้ โดย รมว.เกษตรฯ ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมการเกษตรจัดหาเครื่องอ่านพิกัดภูมิศาสตร์(GPS) ให้เพียงพอและเหมาะสมในการใช้งานเพื่อให้การตรวจสอบข้อมูลพื้นที่จริงมีความถูกต้องสมบูรณ์ และนำไปใช้ในโครงการรับจำนำแล้วสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้
ปัจจุบัน กรมส่งเสริมการเกษตรได้จัดซื้อเครื่อง GPS ให้กับสำนักงานเกษตรอำเภอแห่งละ 1 เครื่อง รวมทั้งสิ้น 882 เครื่อง สำหรับตรวจสอบข้อมูลพื้นที่ปลูกของเกษตรกรในการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจ แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติงานให้ทันตามกรอบเวลาของการขึ้นทะเบียน ดังนั้นกระทรวงเกษตรฯ ได้เตรียมแผนการจัดซื้อเครื่อง GPS ให้มีความครอบคลุมพื้นที่มากยิ่งขึ้นให้ถึงในระดับตำบล
เบื้องต้นจะดำเนินการซื้อทันทีในพื้นที่จำเป็นเร่งด่วน 2,400 ตำบล จัดซื้อตำบลละ 1 เครื่อง รวม 2,400 เครื่อง โดยใช้งบประมาณปกติของกรมส่งเสริมการเกษตรดำเนินการจัดซื้อภายใต้วงเงิน 48 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะจัดซื้อให้ครบพื้นที่ที่มีการปลูกพืชเศรษฐกิจ 6,885 ตำบลให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2556 ซึ่งรวมแล้วจะใช้งบประมาณ 120 ล้านบาท
"เพื่อให้การตรวจสอบพื้นที่มีความถูกต้อง แม่นยำ โปร่งใส ไม่ซ้ำซ้อน และสามารถดำเนินการได้ทันกับกรอบระยะเวลาการออกใบรับรองให้แก่เกษตรกรเพื่อเข้าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลได้" นายนิกร กล่าว
ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบการป้องกันการทุจริตในการรับจำนำข้าวนั้น ล่าสุดจากการประชุมติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบเพื่อป้องกันการทุจริตในการรับจำนำข้าว การเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันสาธารณภัย และการใช้จ่ายเงินงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งมี ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
เป็นการรายงานสรุปผลการตรวจสอบข้อมูลเกษตรกร(X-Rays) ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/2555 ตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค.-12 ต.ค.55 จากผลการปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการอำนวยการตรวจสอบเพื่อป้องกันการทุจริตในการรับจำนำข้าว การเยียวยา ฟื้นฟูและการป้องกัน สาธารณภัย และการใช้จ่ายเงินงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(ศตข.) ที่ได้มีการสั่งการให้อนุกรรมการทั้ง 11 ชุด จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบการสวมสิทธิ์เกษตรกรจากข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี 2554/55 ซึ่งมีจำนวนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน 4,225,113 ราย จำนวนใบประทวน 1,618,585 ใบ
ผลการตรวจสอบพื้นที่ปลูกข้าวจริงจากจำนวนเกษตรกร 904,606 ราย พบความผิดปกติจำนวน 25 ราย โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า จำนวน 22 ราย ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 6 จังหวัดพิษณุโลก เกษตรกรมีการจำนำรอบสอง และจำนวนเกินกำหนด 1 เดือนซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่ออกใบประทวนให้กับเกษตรกรทั้ง 22 รายดังกล่าว ส่วนอีก 3 รายในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 พบว่า ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เกษตรกรมีการแก้ไขตัวเลขโฉนดที่ดินจำนวน 2 ราย และอีก 1 รายในจังหวัดนครปฐม เกษตรกรนำพื้นที่ปลูกอ้อยไปขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าว ซึ่งทางศูนย์ฯ ได้มีการสั่งการให้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานให้ทางศูนย์ฯรับทราบโดยเร่งด่วน โดยกรมส่งเสริมการเกษตรได้มอบหมายให้เกษตรจังหวัดตรวจสอบและแจ้งความดำเนินคดีต่อไป