ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ตอบกระทู้สดของนายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ แทนนายกรัฐมนตรีเรื่องการบังคับใช้กฎหมายกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกออกหมายจับถึง 6 คดีว่าจะดำเนินการอย่างไร ว่า คดีความของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผลพวงมาจากการปฏิวัติเมื่อ 19 ก.ย.49 ซึ่งดำเนินการสอบสวนโดยคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) แล้วส่งเรื่องไปให้อัยการสูงสุด จึงไม่ใช่อำนาจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) หรือรัฐบาลที่จะดำเนินการขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย
"อัยการสูงสุดต้องเป็นผู้รับผิดชอบ และเหตุที่การขอตัวอดีตนายกรัฐมนตรีไม่ได้รับความร่วมมือจากต่างประเทศ เพราะนานาชาติ เห็นว่ากฎหมายของประเทศไทยที่บังคับใช้กับอดีตนายกรัฐมนตรีไม่มีความเป็นธรรม และไม่เป็นไปตามหลักสากลที่บัญญัติในกฎบัตรสหประชาชาติ" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า รัฐบาลบังคับใช้กฎหมายโดยยึดหลักนิติรัฐ นิติธรรม แต่การดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เข้าหลักเกณฑ์การขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน รวมทั้งตนเองก็ไม่เห็นด้วยกับการใช้ศาลเดียวตัดสิน แต่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่าตอนไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ฮ่องกงได้พูดคุยเรื่องอะไรกันเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งหากฝ่ายค้านสงสัยก็สามารถยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตนเองได้ และยืนยันหากสถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้นกว่านี้จะเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาประเทศไทย
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า คดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้นั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเพราะไม่มีอำนาจปล่อยสินเชื่อดังกล่าว และหากมีผู้ที่เกี่ยวข้องกระทำผิดก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการ