ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีภาคีเครือข่ายต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นแห่งชาติ(ภตช.) ระบุว่า มีนักการเมืองไทยไซฟ่อนเงินจำนวน 1.6 หมื่นล้านบาทที่ฮ่องกง ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการด้วยวาจาให้ตนเองดำเนินการตรวจสอบให้ชัดเจน ทั้งที่เป็นความเท็จแต่นายกรัฐมนตรีก็ยังห่วงใย ซึ่งในวันที่ 24 ต.ค.นี้ ตนเองจะสั่งการกระทรวงยุติธรรมให้ดำเนินการเรื่องนี้ และเชิญนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) และ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) มาพบ และหาก DSI ทำการตรวจสอบเรื่องนี้เป็นทางการได้ก็อยากให้ทำ
"ที่ไม่เชื่อว่าเป็นความจริงเพราะ ภตช.ในเมืองไทยเป็นภาคเอกชนไม่มีใครรองรับ ตั้งขึ้นมาเอง ยกย่องกันเอง ชงเองกินเอง และอ้างว่า ไปประชุมกับไอซีเอซี อายัดที่ฮ่องกง ไม่เชื่อ เพราะเขาเป็นหน่วยราชการ ยิ่งข่าวตอนหลังออกมาเรียกว่า เต้าข่าว บอกว่า หลังจากอายัดแล้ว ยังมีคนโอนต่อไปฝรั่งเศส ซึ่งถ้าอายัดจริงจะโอนได้อย่างไร เต้าข่าว เป็นการสร้างความสับสนให้คนเข้าใจผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงิน 1.6 หมื่นล้านบาท จะเบิกกี่บัญขีกี่วัน หากจะเอาเงินสด 1.6 หมื่นล้านบาท 16,000 กิโลกรัม เครื่องบินที่ไหนจะบรรทุกได้" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ขณะนี้ผู้เกี่ยวข้องออกมาปฏิเสธกันพัลวันแล้ว ประธานอนุกรรมาธิการวุฒิสภาฯ ก็บอกว่าน้ำหนักเบา เครือข่าย ภตช.ก็โยนกันไปมา เรื่องนี้ไอ้พาร์กินสันต้นเรื่อง ไอ้มือสั่น ทั้งนี้ไม่คิดที่จะเรียกนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาฯ ภตช. มาพบเพราะไม่เชื่อ ไม่มีราคา เพราะจับได้ว่าโกหกตรงที่อายัดแต่บอกโอนเงินไปฝรั่งเศสอีก จะเป็นไปได้อย่างไร
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า การที่นายมงคลกิตติ์ไม่ได้ระบุว่า ใครเป็นคนไซฟ่อนก็ดำเนินคดีไม่ได้ แต่หาก ภตช.ระบุชื่อมาเลยไม่ใช่ชื่อย่อตรงนั้นถือว่าหมิ่นประมาท และคำว่านักการเมืองก็ไม่ได้บอกว่าระดับใด อย่างไรก็ตาม กรณีสร้างความปั่นป่วน แสดงความเลอะเทอะ ไม่มีราคา เป็นพวกเจ้าเก่าโดยเฉพาะคนที่เป็นพาร์กินสัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ก่อนหน้านี้ได้ระบุว่า มีขบวนการจ้องล้มรัฐบาล แต่ก็ไม่ได้ใส่ร้ายใคร
ส่วนการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ที่มี พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ เป็นแกนนำนั้น ตนเองเชื่อว่า พล.อ.บุญเลิศ เป็นคนดี รักประเทศชาติไม่น้อยกว่าใคร แต่คงต้องระมัดระวังไม่ให้มือที่สามมาสร้างสถานการณ์ เพราะตนเองมองในแง่ดีว่าจากความดีของท่านไม่น่าเกิดสถานการณ์รุนแรงอะไร ลักษณะการชุมนุมใช้เฉพาะพื้นที่บริเวณสนามม้านางเลิ้งเท่านั้น ไม่มีการเคลื่อนไปจุดอื่น การดูแลความปลอดภัยตำรวจได้รับทราบดีอยู่แล้ว ทั้งนี้การชุมนุมต่างๆ ถ้าไม่มีพรรคการเมืองหนุนหลัง จำนวนคนอาจไม่มากนัก และเป็นเพียงการชุมนุมแสดงความคิดเห็นปกติเท่านั้น
"ถ้าพรรคการเมืองบางพรรคจะหนุนหลังหวังถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ผมเชื่อคงไม่มีอีกต่อไปแล้ว" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ทั้งนี้มีรายงานว่า ในวันที่ 24 ต.ค.นี้ ที่สนามม้านางเลิ้ง ร.ต.อ.เฉลิม พร้อมด้วย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. และ พล.ต.อ.ภานุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง จะไปพบกับ พล.อ.บุญเลิศ เพื่อทำความเข้าใจเรื่องการชุมนุมแสดงพลังที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ รวมถึงพูดคุยถึงสถานการณ์ทางการเมือง