นางนลินี ทวีสิน รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ ลงพื้นที่ตรวจติดตามโครงการศูนย์บริหารจัดการสารสนเทศสำหรับนักท่องเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ณ วิทยาลัยนานาชาติการท่องเที่ยว อำเภอเกาะสมุย ในโอกาสเดินทางมาประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
สำหรับเกาะสมุยเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติขนานนามเกาะนี้ว่าเป็น "สวรรค์กลางอ่าวไทย" เพราะที่นี่มีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ น้ำทะเลใส หาดทรายขาว เช่น หาดเฉวง หาดละไม และยังมีน้ำตก แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม รวมถึงโรงแรมที่พัก สนามกอล์ฟ สปา ร้านอาหาร สถานบันเทิงอีกมากมาย ซึ่งธุรกิจด้านการท่องเที่ยวนี้ช่วยทำรายได้ให้กับจังหวัดสุราษฎร์ธานีปีละไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท
รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุม ครม.สัญจร ครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่คณะรัฐมนตรีมาลงพื้นที่ติดตามโครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของภาคใต้ โดยในส่วนของโครงการศูนย์บริหารจัดการสารสนเทศสำหรับนักท่องเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นโครงการที่น่าจะช่วยให้จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีศูนย์บริการข้อมูลการท่องเที่ยวและเป็นสถานที่ฝึกอบรมให้ความรู้แก่กลุ่มธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จึงอยากทราบถึงแผนงานที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีในฐานะผู้เสนอโครงการจะดำเนินการในช่วง 1 ปีนับจากนี้ รวมถึงความคุ้มค่าในอนาคต เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดรายงานต่อที่ประชุม ครม.พิจารณาในการประชุมวันพรุ่งนี้ต่อไป
ด้านนายณรงค์ พุทธิชีวิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีได้จัดตั้งวิทยาลัยนานาชาติการท่องเที่ยว อ.เกาะสมุย ขึ้น เปิดสอนในสาขาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและให้บริการข้อมูลข่าวสารเพื่อการท่องเที่ยว รวมทั้งให้ความรู้แก่มัคคุเทศก์และผู้ประกอบการโรงแรม โดยจัดกิจกรรมที่เหมาะสม มีการจัดสถานที่และบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียน และใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ และเตรียมดำเนินโครงการศูนย์บริหารจัดการสารสนเทศสำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อสนับสนุนธุรกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดสุราษฎร์ธานี โครงการดังกล่าวเป็นโครงการด้านการศึกษาที่มีพื้นที่ดำเนินการหรือได้รับอนุญาตตามกฎหมาย มีการศึกษาความเหมาะสมของโครงการ และมีแบบรายละเอียดของโครงการแล้ว
โดยศูนย์ดังกล่าวจะใช้จุดแข็งของมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีในการเป็นมหาวิทยาลัยต้นแบบแห่งภูมิภาคเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นในการบูรณาการวิชาการสู่นักท่องเที่ยว เยาวชน ประชาชน โดยเสนอของบประมาณจากคณะรัฐมนตรี จำนวน 20 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าใช้จ่ายเพื่อการพัฒนาศูนย์บริหารจัดการสารสนเทศเพื่อการศึกษาและการท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้สู่ชุมชนด้านการท่องเที่ยว 14 ล้านบาท และจัดหารถโมบายเคลื่อนที่พร้อมอุปกรณ์สารสนเทศ 6 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 1 ปี เริ่มต้นปี 2556 และสิ้นสุดปี 2557 โดยเมื่อโครงการสร้างเสร็จแล้วจะทำให้จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีแหล่งให้บริการสารสนเทศสำหรับนักท่องเที่ยว มีศูนย์ฝึกอบรมเพื่อการพัฒนาอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชุมชน นักเรียนนักศึกษา ผู้ประกอบการ ประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยวได้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองทำให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต
"หากคณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณตามที่มหาวิทยาลัยเสนอขอ ทางมหาวิทยาลัยสามารถดำเนินการได้ทันที และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2557" นายณรงค์ กล่าว