คณะกรรมาธิการ(กมธ.)เศรษฐกิจ การพาณิชย์ และอุตสาหกรรม วุฒิสภา เสนอรายงานศึกษาผลกระทบจากนโยบายประชานิยมและโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ชี้เป็นนโยบายที่ประสบความล้มเหลวและส่อเค้าทุจริต แต่นักการเมืองไม่สนใจ
"เป็นนโยบายที่ล้มเหลวที่สุดตั้งแต่ปี 2529 ที่มีนโยบายดังกล่าว แต่การที่นักการเมืองไม่ยกเลิก เพราะมีผลประโยชน์รวมไปถึงพ่อค้าคนกลาง ทั้งที่ประโยชน์ควรถึงมือประชาชน" นายมหรรณพ เดชวิทักษ์ ประธาน กมธ.เศรษฐกิจฯ กล่าวในการแถลงผลการศึกษาผลกระทบนโยบายประชานิยมและโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล
ประธาน กมธ.เศรษฐกิจฯ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งทบทวนและเปิดเผยความโปร่งใส ด้วยการนำสัญญาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐมาแสดงต่อสาธารณชนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหนี้สาธารณะ เพราะราคาที่รัฐบาลรับจำนำสูงกว่าตลาด เชื่อว่าจะไม่มีชาวนารายใดมาไถ่ข้าวที่จำนำไว้คืน ทั้งนี้ยังขอให้รัฐบาลปรับโครงการด้วยการเลิกจำนำข้าวทุกเมล็ด แต่กำหนดปริมาณรับจำนำและวงเงินรับจำนำ เพื่อให้ชาวนารายเล็กได้ประโยชน์อย่างแท้จริง
ประธาน กมธ.เศรษฐกิจฯ เชื่อว่า จะมีการทุจริตเกิดขึ้น ทั้งการสวมสิทธิหรือกระบวนการของโรงสี ที่ใช้รูปแบบต่างๆ แต่กรรมาธิการฯ คงไม่ลงลึกไปในรายละเอียด เพราะมีหลายหน่วยงานตรวจสอบอยู่แล้วโดยกรรมาธิการฯ จะส่งเรื่องไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ตรวจสอบ และส่งให้ที่ประชุมวุฒิสภานำรายงานผลการศึกษาไปประกอบการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติของวุฒิสภาด้วย