กรุงเทพโพลล์ เผยผลสำรวจประชาชนส่วนใหญ่อยากให้ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในเรื่องโครงการรับจำนำข้าวมากที่สุด และเชื่อว่าหลังการอภิปรายฯ เสร็จสิ้นแล้วรัฐบาลก็คงไม่ปรับเปลี่ยนนโยบายในการทำงาน
"ประชาชน 42.3% อยากให้ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องโครงการรับจำนำข้าวเปลือกมากที่สุด และ 61.4% เชื่อว่ารัฐบาลคงจะไม่มีการปรับเปลี่ยนนโยบายการทำงานใดๆ หลังจบอภิปรายฯ" เอกสารเผยแพร่ ระบุ
นอกจากเรื่องโครงการรับจำนำข้าวเปลือกแล้ว ประเด็นที่ประชาชนต้องการให้ฝ่ายค้านอภิปรายฯ รองลงมา ร้อยละ 42.3 คือ เรื่องสินค้าราคาแพง และร้อยละ 30.4 เรื่องการบริหารจัดการน้ำ ขณะเดียวกันประชาชนร้อยละ 47.4 เชื่อว่าการอภิปรายซักฟอกในครั้งนี้ฝ่ายค้านคงไม่มีข้อมูลเด็ดที่จะนำมามาซักฟอกรัฐบาล และอีกร้อยละ 24.8 เห็นข้อมูลที่จะอภิปรายคงเป็นเรื่องเดิมที่รู้กันอยู่แล้ว แต่อีกร้อยละ 22.6 ที่เชื่อว่าแม้ไม่มีข้อมูลเด็ดแต่อาจมีข้อมูลดีๆ มาอภิปรายฯ ขณะที่ร้อยละ 19.5 เชื่อว่ามีข้อมูลเด็ดๆ แน่นอน
ขณะที่ประชาชนร้อยละ 61.4 เชื่อว่ารัฐบาลคงจะไม่มีการปรับเปลี่ยนนโยบายการทำงานใดๆ หลังการอภิปรายฯ เสร็จสิ้นถึงแม้ว่าข้อมูลที่ฝ่ายค้านนำมาอภิปรายฯ จะมีน้ำหนักน่าเชื่อถือก็ตาม โดยร้อยละ 18.8 ให้เหตุผลว่ารัฐบาลมีความเชื่อมั่นว่านโยบายที่ทำดีอยู่แล้ว รองลงมาร้อยละ 15.2 บอกว่ารัฐบาลต้องทำตามที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชน และร้อยละ 14.1 บอกว่ารัฐบาลกลัวเสียผลประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง ขณะที่ร้อยละ 38.6 คิดว่ารัฐบาลคงจะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายให้รอบคอบและรัดกุมขึ้นตามข้อมูลที่ฝ่ายค้านอภิปราย
สำหรับเรื่องที่ประชาชนไม่อยากให้เกิดขึ้นในการอภิปรายฯ ครั้งนี้ ร้อยละ 20.9 การพูดจาส่อเสียด หยาบคาย, ร้อยละ 19.8 การพูดนอกเรื่องและเลี่ยงไม่ตอบข้อเท็จจริง และร้อยละ 14.4 การไม่เคารพ/ไม่ให้เกียรติผู้ทำหน้าที่ประธานการประชุม
ส่วนความสนใจที่จะติดตามชมการอภิปรายฯ ครั้งนี้ ประชาชนร้อยละ 41.8 บอกว่าจะติดตามชมการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นช่วงๆ เฉพาะประเด็นที่น่าสนใจ รองลงมาร้อยละ 30.6 บอกว่าจะติดตามจากข่าวที่สื่อต่างๆ นำมาเสนอ และมีเพียงร้อยละ 10.2 ที่บอกว่าจะติดตามชมตลอดการอภิปรายฯ
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ(กรุงเทพโพลล์) ได้สำรวจความคิดเห็นดังกล่าวจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,182 คน ในเรื่อง "ประชาชนคิดอย่างไรกับการยื่นเปิดศึกซักฟอกรัฐบาล" ช่วงวันที่ 19-23 ต.ค.ที่ผ่านมา