นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ในฐานะคณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบ เรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา เปิดเผยว่า จะส่งหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดินในวันที่ 29 ต.ค.นี้ เพื่อขอให้ส่งเรื่องต่อให้ศาลปกครองพิจารณาว่าคณะกรรมการโทรคมนาคม(กทค.) มีอำนาจรับรองผลการประมูลคลื่นความถี่ 3จี หรือไม่ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 245 (2)
เนื่องจากเห็นว่าเป็นการรับรองดังกล่าว ไม่น่าจะชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 47 และมาตรา 305(1) เพราะอำนาจในการรับรองต้องเป็นของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) โดยจากการพิจารณาตามประกาศของ กสทช.เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาติให้ใช้คลื่นความถี่ไม่มีข้อความใดที่ระบุว่าเป็นอำนาจของ กทค.
นายไพบูลย์ กล่าวว่า หากศาลปกครองมีคำวินิจฉัยออกมาก็จะได้ไปใช้เป็นบรรทัดฐานต่อไปในอนาคต แต่คงไม่ถึงขั้นล้มการประมูล 3 จี เพราะโดยส่วนตัวเห็นว่าจะสามารถดำเนินการได้ 2 รูปแบบ คือ ให้ผู้ประกอบการเสนอราคาใหม่จนกว่าจะได้ราคากลางที่เหมาะสม ซึ่งจะทำให้ได้ใช้ระบบ 3 จีรวดเร็ว หรือให้ยกเลิกประมูลเดิมมาเริ่มต้นใหม่ โดยปรับหลักเกณฑ์เปิดกว้างให้มีการแข่งขันจากผู้ประกอบการรายอื่นไม่ได้จำกัดเพียงแค่ผู้ประกอบการ 3 รายเดิม
น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. ในฐานะคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา กล่าวว่า จากการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการประมูล 3จี ว่าเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลหรือเข้าข่ายการกระทำผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาหรือฮั้วประมูลหรือไม่เมื่อวานนี้(25 ต.ค.) ทางกรรมาธิการฯ จะกลับไปสรุปข้อมูลเบื้องต้น และอาจเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมก่อนส่งเรื่องต่อให้ผู้มีอำนาจได้ตรวจสอบต่อไป เช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) โดยเห็นว่าจะต้องทำให้เร็วที่สุดเพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน