นายซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลีกล่าวว่า เขารู้สึกว่ายังคงมีภาระด้านการเมืองที่ต้องดำเนินการ หลังถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรมว่าโกงภาษี
นายแบร์ลุสโคนีกล่าวในงานแถลงข่าวหลังประกาศว่าจะลงสมัครชิงตำแหน่งผู้นำอิตาลีในการเลือกตั้งในฤดูใบไม้ผลินี้ว่า เขาจะไม่ยอมให้มีการกล่าวหาซึ่งยอมรับไม่ได้อีกต่อไป
นายแบร์ลุสโคนียืนยันในเรื่องที่เขาจะไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอิตาลีอีกต่อไป แต่ได้เปลี่ยนแผนที่จะหันหลังให้กับการเมืองเมื่อเร็วๆนี้ หลังคณะผู้พิพากษาในมิลานได้ให้คำนิยามสำหรับเขาว่าเป็นบุคคลที่มีพฤติกรรมส่อไปในทางอาชญากรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่เขายอมรับไม่ได้
ศาลขั้นต้นเมืองมิลานมีได้คำสั่งจำคุกนายแบร์ลุสโคนีเป็นเวลา 4 ปีและห้ามดำรงตำแหน่งทางราชการเป็นเวลา 5 ปี โดยคำสั่งดังกล่าวยังไม่เป็นที่สิ้นสุดจนกว่าการอุทธรณ์จะหมดอายุความ
นายแบร์ลุสโคนีซึ่งถูกตั้งข้อกล่าวหาอีกหลายคดีกล่าวว่า เขาถูกตัดสินโดยคณะผู้พิกพากษาซึ่งเอนเอียงไปทางฝ่ายซ้ายซึ่งปกครองประเทศโดยนักการเมืองจากคณะผู้พิพากษา
นายแบร์ลุสโคนีกล่าวว่า เขาอยากปฏิรูประบบศาลยุติธรรม เพื่อให้สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเขาไม่เกิดขึ้นกับประชาชนคนอื่นๆ
นอกจากนี้ นายแบร์ลุสโคนียังกล่าวว่า พรรคของเขาต่อต้านนโยบายที่เยอรมนีเป็นผู้กำหนดให้กับประเทศอื่นๆ โดยระบุว่า จะมุ่งไปที่การปรับลดภาษีลง ส่งเสริมบริษัทเอกชน ลดค่าใช่จ่ายรัฐบาล และปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมเพื่อไม่ให้หลายๆครอบครัวต้องสิ้นหวังและหวาดกลัวในสิ่งที่เกิดขึ้นกับตน นายแบร์ลุสโคนี ถูกกดันให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอิตาลีในเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมาท่ามกลางข่าวอื้อฉาวในเรื่องชู้สาว ตลอดทั้งความไร้ศักยภาพของรฐบาลในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดการเงินซึ่งส่งผลให้อิตาลีมีความเสี่ยงต่อการเกิดวิกฤตการเงิน สำนักข่าวซินหัวรายงาน