รายงานข่าวจากรัฐสภา แจ้งว่า ที่ประชุมสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งมีนางพรทิพย์ โล่ห์วีระ จันทร์รัตนปรีดา รองประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุมได้ร่วมกันพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. .... วาระแรก โดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ชี้แจงหลักการและเหตุผลของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวว่าเพื่อเป็นการลดช่องว่างของสังคม เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐ ไม่ให้กระทบต่อการเงินการคลังของประเทศในระยะยาว
หลังจากนั้นมีสมาชิกวุฒิสภาหลายคนอภิปรายสนับสนุน ร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว โดยเห็นว่าร่างกฎหมายฉบับนี้จะเปิดช่องให้มีการลงทุน และพัฒนาประเทศมากขึ้น โดยบางโครงการที่รัฐไม่พร้อมลงทุน หากมีกฎหมายดังกล่าวจะเปิดช่องให้เอกชนเข้ามาดำเนินการแทน เช่น การสร้างมอเตอร์เวย์ บางใหญ่-กาญจนบุรี หรือแม้กระทั่งโครงการสร้างท่าเรือในหลายจังหวัดที่ดำเนินงานโดยกรมเจ้าท่า ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐและถูกทิ้งร้าง หากให้ภาคเอกชนเข้ามาดำเนินการ อาจทำให้โครงการต่างๆ ที่ถูกทิ้งไว้เดินหน้าไปได้
นอกจากนี้ การให้เอกชนเข้ามาร่วมดำเนินการเป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยลดการทุจริตได้ เพราะมีฝ่ายต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น ไม่ใช่มีเพียงแต่เจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้น และสมาชิกยังเห็นว่าการแก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจากเดิมที่มีเพียง 14 มาตรา แต่การแก้ไขใหม่มีเนื้อหากว่า 70 มาตรา เพิ่มเนื้อหาทั้งการกำกับดูแล การคัดเลือกเอกชนที่จะร่วมลงทุน รวมไปถึงการลดระยะเวลาที่จะคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุน ซึ่งเห็นว่ากฎหมายดังกล่าวมีประโยชน์
ที่สุดแล้วหลังเปิดให้ ส.ว.อภิปรายระยะหนึ่ง ที่ประชุมฯ ได้ลงมติผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าวด้วยคะแนน 111 ต่อ 0 งดออกเสียง 3