ขณะที่ประชาชนอีก 25.31% เห็นว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะอภิปราย เพราะสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ยังวุ่นวายอยู่ และการอภิปรายครั้งนี้อาจทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น ควรรอดูไปก่อน ส่วน 24.49% ยังไม่แน่ใจว่าควรอภิปรายแล้วหรือยัง เพราะรัฐบาลเพิ่งปรับ ครม.ได้ไม่กี่วัน เป็นเกมการเมืองที่อาศัยช่วงจังหวะเวลาในการแย่งชิงความได้เปรียบกัน
สำหรับประเด็นที่ประชาชนต้องการให้ฝ่ายค้านยื่นอภิปราย อันดับหนึ่ง 39.17% คือ การทุจริตคอร์รัปชันโครงการต่างๆ โดยเฉพาะการรับจำนำข้าวและงบประมาณในการแก้ปัญหาน้ำท่วม อันดับสอง 25.21% คือ การพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เช่น ค่าครองชีพสูงและสินค้าราคาแพง อันดับสาม 20.14% คือ ผลการดำเนินงานและพัฒนาการด้านเศรษฐกิจของประเทศ และอันดับสี่ 15.48% คือ พฤติกรรมของนักการเมือง การตรวจสอบการทำงานของนักการเมือง
ส่วนความคิดเห็นที่ว่า การยื่นอภิปรายครั้งนี้ควรจะยื่นอภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายกระทรวง หรืออภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวนั้น พบว่าประชาชน 66.36% ต้องการให้ยื่นอภิปรายทั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายกระทรวง เนื่องจากทั้ง 2 ตำแหน่งมีความสำคัญต่อการบริหารและพัฒนาประเทศ จึงอยากให้ทั้งนายกฯ และรัฐมนตรีขึ้นมาชี้แจงด้วยตนเอง
ขณะที่ 22.74% เห็นว่าควรเปิดอภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายกระทรวงเท่านั้น เนื่องจากแต่ละกระทรวงก็มีผลงานที่แตกต่างกัน ตัวรัฐมนตรีเองมีความเข้าใจและรู้จักกระทรวงของตนเองดีที่สุด สวนอีก 10.90% เห็นว่าควรอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว เพราะเป็นผู้นำรัฐบาลที่มีอำนาจในการบริหารและตัดสินใจ มีหน้าที่รับผิดชอบในทุกเรื่องของรัฐบาล นายกฯ ควรออกมาชี้แจงให้ประชาชนได้รับรู้ด้วยตนเอง