ที่ผ่านมา กทม.ได้พัฒนาระบบขนส่งมวลชนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพัฒนาการสัญจรทางน้ำให้เป็นระบบขนส่งมวลชนเสริมที่สามารถใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ภายใต้แนวคิด "การขนส่งอย่างยั่งยืน" เพื่อให้ชาวกรุงเทพฯ เดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ประหยัดและปลอดภัย
ล่าสุดได้ปรับปรุงท่าเทียบเรือในคลองแสนแสบส่วนต่อขยายจากท่าเทียบเรือวัดศรีบุญเรืองถึงสำนักงานเขตมีนบุรี ระยะทางรวม 11 กิโลเมตร จำนวนทั้งสิ้น 14 ท่า ได้แก่ ท่าโรงเรียนพร้อมมิตรพิทยา, ท่ารามคำแหง 123, ท่าสุเหร่าอัสสลาม, ท่าคลองรหัส, ท่าหมู่บ้านร่มไทร, ท่าสุเหร่าแดง, ท่าหลอแหลใหญ่, ท่ารามคำแหง 167, ท่าประตูน้ำบางชันด้านใต้, ท่าประตูน้ำบางชันด้านเหนือ, ท่าวัดบำเพ็ญเหนือ, ท่ารามคำแหง 199, ท่าตลาดมีนบุรี และท่าสำนักงานเขตมีนบุรี
โดย กทม.จะเปิดให้บริการฟรีแก่ประชาชนในระยะแรกเป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.55 จนถึง 5 มิ.ย.56 จำนวน 9 ท่า คือ 1.ท่าโรงเรียนพร้อมมิตรพิทยา 2.ท่ารามคำแหง 123 3.ท่าสุเหร่าอัสสลาม 4.ท่ารามคำแหง 167 5.ท่าประตูน้ำบางชันด้านใต้ 6.ท่าประตูน้ำบางชันด้านเหนือ 7.ท่าวัดบำเพ็ญเหนือ 8.ท่าตลาดมีนบุรี และ 9.ท่าสำนักงานเขตมีนบุรี เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน และนักเรียนที่ศึกษาอยู่ในสถานศึกษาริมคลองแสนแสบ โดยจัดเรือโดยสารขนาด 60 ที่นั่ง ไว้คอยบริการจำนวน 7 ลำ ให้บริการทุกวันๆ ละ 2 ช่วง คือ ช่วงเช้าเวลา 06.00-09.00 น. และช่วงเย็นเวลา 16.00-19.30 น. ซึ่งหลังจากเปิดใช้แล้ว กทม.จะทำการเก็บข้อมูล เพื่อนำไปประเมินผลและพัฒนาต่อไป
สำหรับการให้บริการทดลองเดินเรือในช่วงแรก 6 เดือนนี้จะเปิดให้บริการฟรีแก่ประชาชน รวมถึงกลุ่มนักเรียนโรงเรียนในเส้นทางการเดินเรือคลองแสนแสบส่วนต่อขยาย จะเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน รวมถึงนักเรียนที่โรงเรียนอยู่ในเส้นทางดังกล่าวซึ่งมีอยู่ถึง 9 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนพร้อมมิตรพิทยา โรงเรียนโสมาภานุสรณ์ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า โรงเรียนอัสสลาม โรงเรียนพิชัยพัฒนา โรงเรียนสตรีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ โรงเรียนมีนประสาทวิทยา โรงเรียนมีนบุรี และโรงเรียนวัดบำเพ็ญเหนือ โดยนักเรียนส่วนใหญ่จะเดินทางโดยเรือ เพราะสะดวก และประหยัดเวลากว่าการเดินทางโดยวิธีอื่น ซึ่งโครงการนี้จึงถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก สำหรับนักเรียน และผู้ปกครอง ตลอดจนประชาชนทั่วไป คาดว่าจะมีนักเรียนมาใช้บริการส่วนต่อขยายไม่ต่ำกว่า 7,000 คนต่อวัน