ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจมากถึง 50,000 นายในการดูแลการชุมนุมนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ถือเป็นมาตรการดูแลและรักษาความสงบเรียบร้อย โดยหลังได้ประสานกับนายสมศักดิ์ เกีรยติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ในการหาช่องทางออกให้กับสมาชิกรัฐสภา หากกลุ่มผู้ชุมนุมบุกล้อมรัฐสภา ปรากฎว่านายสมศักดิ์ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว พร้อมยืนยันจะไม่มีการตั้งด่านสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุมจากต่างจังหวัดที่จะเดินทางมาร่วมชุมนุมอย่างแน่นอน
พร้อมระบุว่าอยากให้ประชาชนใช้ดุลยพินิจก่อนตัดสินใจเข้าร่วมชุมนุม อย่างไรก็ดี ขณะนี้ขอประเมินก่อนว่าจะนำกฎหมายพิเศษ เช่น พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เข้ามาดูแลการชุมนุมหรือไม่ แต่เบื้องต้นมองว่ากฎหมายที่มีอยู่น่าจะเพียงพอต่อการดูแลสถานการณ์แล้ว
ทั้งนี้ จะมีการเชิญตัวแทนองค์การสหประชาชาติ และผู้สื่อข่าวต่างประเทศเข้าร่วมสังเกตการณ์การชุมนุมในครั้งนี้ด้วย พร้อมแสดงความเห็นว่า การที่ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม จะแถลงข่าวรายวันนั้น ไม่อยากให้สื่อมวลชนให้ความสำคัญกับการแถลงข่าวดังกล่าว เพราะถือว่าไม่มีประโยชน์
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่มีกำหนดเดินทางเยือนประเทศไทย ระหว่างวันที่ 18-19 พ.ย.ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจของไทยได้ร่วมประชุมกับทีม รปภ.ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งพบว่าสหรัฐฯ พอใจในมาตรการรักษาความปลอดภัยของไทย โดยทุกขั้นตอนจะมีการดูแลอย่างเข้มงวด มีการจัดกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยรอบทำเนียบรัฐบาลอย่างเต็มที่และอาจมีการปิดถนนบางช่วง ในช่วงที่ประธานาธิบดีสหรัฐต้องสัญจรผ่านด้วย