พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรียังได้ย้ำให้นักธุรกิจของสหราชอาณาจักรได้มั่นใจว่า รัฐบาลไทยสนับสนุนกระบวนการปรองดอง และการหารือด้วยสันติวิธีโดยใช้กลไลของรัฐสภาเป็นเวทีในการเจรจา ซึ่งในจุดนี้เป็นสิ่งที่ทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจของสหราชอาณาจักรต้องการจะเห็น
"เขาอยากเห็น เพราะไม่อยากให้ใช้กลไกอื่นๆ นอกเหนือจากประชาธิปไตย เพราะรัฐสภาเป็นเวทีแก้ปัญหาและพูดจากันดีที่สุด" นายกรัฐมนตรี กล่าว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวด้วยว่า ทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบในการยกระดับการประสานงานระหว่างกันขึ้นในระดับปลัดกระทรวง ซึ่งจะใช้เป็นเวทีสำหรับการหารือเรื่องต่างๆ ที่เป็นประเด็นสืบเนื่องจากการหารือร่วมกันในโอกาสที่เดินทางมาเยือนสหราชอาณาจักรในครั้งนี้ โดยเชื่อว่าจะเป็นส่วนที่ทำให้เชื่อมต่อการค้าการลงทุน และเชื่อมต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศได้มากยิ่งขึ้น
"ทุกเรื่องที่หารือกัน(ที่สหราชอาณาจักร) ก็จะมีการติดตามและมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการประสานงาน ซึ่งถ้าอนาคตระดับความสัมพันธ์ดีขึ้นเรื่อยๆ เราจะยกระดับนี้ขึ้นไปอีก วันนี้เราได้หารือกันมีทั้งการค้า การลงทุน ดังนั้น Strategic Dialogue นี้จะเกิดขึ้นที่ประเทศไทย เราจะถือโอกาสเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุม" นายกรัฐมนตรีกล่าว
ทั้งนี้ ฝ่ายไทยยังได้เชิญชวนสหราชอาณาจักรเข้ามาลงทุนในประเทศไทยในด้านต่างๆ เช่น ภาคการเกษตร โดยเฉพาะการแปรรูปสินค้าเกษตร, พลังงานทดแทน และพลังงานทางเลือก ตลอดจนความร่วมมือทางด้านการศึกษา เป็นต้น