สำหรับผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศนั้น หากการชุมนุมไม่รุนแรง เชื่อว่าจะไม่กระทบกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP) โดยปีนี้คาดว่า GDP ยังคงเติบโตได้ 5.5% ส่วนปี 56 คาดว่าเติบโตได้ 4.5% แต่หากการชุมนุมมีความรุนแรงจนทำให้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลก็คาดว่าจะทำให้ GDP ปีหน้าเติบโตได้ต่ำกว่า 4% และกระทบการท่องเที่ยวในปีหน้าคิดเป็นมูลค่าราว 10,000 ล้านบาท
ด้านนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานสภาหอการค้าไทย และประธานคณะทำงานการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน กล่าวว่า ไม่อยากเห็นการชุมนุมยืดเยื้อและเกิดความรุนแรง แม้ว่าจะไม่กระทบต่อภาคการค้ามากนัก แต่จะกระทบการท่องเที่ยวไทย ซึ่งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยในช่วงปลายปี ซึ่งหากการชุมนุมมีความสงบ ไม่มีความรุนแรง ก็ถือว่าเป็นสิทธิทางประชาธิปไตยที่สามารถชุมนุมได้ แต่ภาพรวมแล้วภาคเอกชนไม่อยากให้เกิดความรุนแรง เพราะจะกระทบภาพพจน์ของประเทศ
อนึ่ง ในวันที่ 24-25 พ.ย.นี้ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ได้นัดชุมนุมกับแนวร่วมที่มีความเห็นทางการเมืองตรงกันในการร่วมขับไล่รัฐบาล โดยนัดรวมตัวกันที่หน้าลานพระบรมรูปทรงม้าตั้งแต่เวลา 09.01 น. พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีการเคลื่อนย้ายไปปิดสถานที่ราชการอย่างแน่นอน