"ประชาชนร้อยละ 71.39 เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว เพราะเป็นการคืนเงินภาษีให้กับประชาชน ไม่ต้องซื้อรถในราคาแพง และเป็นการจูงใจในการซื้อรถยนต์ ขณะที่ร้อยละ 24.44 ไม่เห็นด้วย เพราะทำให้การจราจรติดขัดเพิ่มมากขึ้น เป็นการสร้างหนี้ให้กับประชาชน และรัฐบาลต้องนำเงินส่วนหนึ่งมาชดเชยให้กับค่าภาษี" เอกสารเผยแพร่ ระบุ
ส่วนความคิดเห็นเรื่องผลดีและผลเสียต่อประเทศจากนโยบายดังกล่าว ประชาชนร้อยละ 50.80 ระบุว่า ส่งผลเสียต่อประเทศ ขณะที่ร้อยละ 49.20 มองว่าส่งผลดีต่อประเทศ โดยในจำนวนประชาชนที่เห็นว่ามีผลเสียต่อประเทศนั้น ร้อยละ 73.50 ระบุว่าเป็นการเพิ่มปัญหาจราจร รองลงมาร้อยละ 42.50 เป็นการเพิ่มมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และร้อยละ 33.20 เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนเป็นหนี้เพิ่มขึ้น ขณะที่ประชาชนซึ่งมองว่ามีผลดี ร้อยละ 78.50 ระบุว่าเป็นการขยายโอกาสให้กับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของรถยนต์ รองลงมาร้อยละ 20.20 เป็นการเพิ่มขยายการลงทุนด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ และร้อยละ 15.40 เพิ่มการจ้างงานมากขึ้น
สำหรับแนวทางในการแก้ไขปัญหาการจราจรของรัฐบาล ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 62.30 ระบุว่า ควรลดราคาค่าโดยสารหรือให้ขึ้นรถบริการสาธารณะฟรี รองลงมาร้อยละ 53.60 ควรเร่งพัฒนาระบบขนส่งทางราง เช่น รถไฟ รถไฟฟ้า และร้อยละ 12.90 ควรชะลอนโยบายลดภาษีรถยนต์คันแรกออกไปอีก
ทั้งนี้ นิด้าโพลได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนในเรื่องดังกล่าวระหว่างวันที่ 16-17 พ.ย.ที่ผ่านมาจากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,248 หน่วยตัวอย่าง กระจายทุกภูมิภาค ทุกระดับการศึกษาและกลุ่มอาชีพ