ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้สอบถามผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือเสธ.อ้าย ประธานกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม และพล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี โฆษกกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ถึงกรณีคำพูดของ พล.อ.บุญเลิศ ในเรื่องการแช่แข็งประเทศไว้ชั่วคราวว่ามีความหมายเช่นใด ซึ่งทนายในฐานะตัวแทนของบุคคลทั้ง 2 ได้ชี้แจงต่อศาลว่าหมายถึงการแช่แข็งนักการเมืองที่ไม่ดีไว้ 5 ปี เพื่อปรับปรุงประเทศชาติบ้านเมือง และหาแนวทางป้องกันนักการเมืองที่ไม่ดีไม่ให้เข้ามาแสวงหาประโยชน์
นอกจากนี้ ศาลฯ ยังถามด้วยว่าคณะผู้บริหารประเทศชุดใหม่ที่จะเข้ามาเป็นกลุ่มบุคคลใด ซึ่งผู้แทนของ พล.อ.บุญเลิศ ชี้แจงว่าการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามในครั้งนี้ มีขึ้นเนื่องจากเห็นว่ากระบวนการทางรัฐสภาไม่สามารถหยุดยั้งการกระทำที่ไม่ชอบของรัฐบาลได้ ดังนั้นจึงมีการแสดงออกว่ายังกลุ่มบุคคลที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล ซึ่งหากการชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย.มีคนมาร่วมชุมนุมจำนวนไม่มาก เชื่อว่าเรื่องจะยุติไปเอง พร้อมยืนยันว่าการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ พล.อ.บุญเลิศ ไม่มีเป้าประสงค์ที่จะได้อำนาจรัฐมาไว้เพื่อประโยชน์ตัวเอง หรือไม่มีประสงค์จะได้อำนาจรัฐโดยไม่เป็นไปตามครรลองที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการเข้าชี้แจงประมาณ 15 นาทีของผู้แทนจาก พล.อ.บุญเลิศ และ พล.อ.ท.วัชระ ศาลฯ ได้อ่านกระบวนการพิจารณาให้ทราบ โดยให้รอฟังคำสั่งในวันนี้เวลา 15.30 น.ว่าจะรับคำร้องในคดีดังกล่าวไว้พิจารณาหรือไม่ พร้อมระบุว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ใช่คำวินิจฉัย