ตามที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ, นายหนึ่งดิน วิมุตตินันท์ และนายสิงห์ทอง บัวชุม ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ รวม 3 คำร้อง เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ว่า พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ได้กระทำการโดยใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้หรือไม่
ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาแล้วเห็นว่า จากการไต่สวนผู้แทนของพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม และผู้แทน พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี โฆษกกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ยืนยันว่าไม่ได้มีการกล่าวเกี่ยวกับแนวคิดการปิดประเทศหรือแช่แข็งประเทศ แต่หมายความว่าเป็นการแช่แข็งนักการเมืองเลว นักการเมืองชั่วไว้สักระยะ 5 ปี เพื่อป้องกันไม่ให้เข้ามากอบโกยหาผลประโยชน์
ตามคำชี้แจงยังได้ความว่า การนัดชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย.55 เป็นการชุมนุมเพื่อแสดงพลังขับไล่รัฐบาล หากขับไล่แล้วไม่เป็นผลก็จะยุติการชุมนุม และมิได้มีเจตนาเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจรัฐโดยมิชอบจากการชุมนุมครั้งนี้
กรณีตามคำร้องยังไม่ปรากฎมูลเหตุว่าจะมีการใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 68 วรรคหนึ่ง ศาลจึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องทั้ง 3 ไว้พิจารณาวินิจฉัย