"วันนี้ถ้าเรารักษาความมั่นคงในประเทศให้เกิดความสงบ บ้านเมืองจะไปได้อย่างราบรื่น พี่น้องประชาชนจะอยู่ดี ได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุน จึงไม่อยากให้เกิดเหตุบานปลาย...แต่วันนี้มีความจำเป็นเพื่อป้องกันและควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ด้วยความสงบ รัฐบาลมีเจตนารมณ์ในการดูแลความปลอดภัยของผู้มาชุมนุม โดยปราศจากอาวุธ ต้องการป้องกันไม่เกิดเหตุบุคคลที่สามเข้ามาก่อกวน ต้องการให้ประชาชนใช้ชีวิตอย่างปกติ คณะรัฐมนตรีจึงได้ประกาศใช้ พ.ร.บ. ความมั่นคง เพื่อป้องกัน รัฐบาลจะทำงานทุกอย่างอย่างมีระเบียบมีขั้นตอน โดย ศอ.รส. จะออกมาตรการต่าง ๆ ในการปฏิบัติที่ยึดหลักกฎหมาย ยึดหลักความสงบ และยึดมาตรการตามหลักของสากล" นายกฯ กล่าว
ด้านจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ผวจ. และ ผบก.ภ.จว. คือหัวใจสำคัญในการรับผิดชอบสูงสุดในระดับจังหวัด จึงขอให้กลับไปดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล โดยที่สำคัญจะต้องมีการประชุมหัวหน้าส่วนราชการทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง รวมถึงรัฐวิสาหกิจ ประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ สถานีทวนสัญญาณดาวเทียม สถานีส่งสัญญาณโทรทัศน์ วิทยุ ต่าง ๆ ทั้งนี้ การที่มีกลุ่มบุคคลที่ออกมาชุมนุมสามารถทำได้โดยเปิดเผยแต่ต้องปราศจากอาวุธ ดังนั้น จังหวัดควรหารือในการตั้งด่านอำนวยความสะดวกในการตรวจอาวุธให้กับประชาชนที่จะเข้ามาร่วมชุมนุม ที่ขอให้พิจารณาตามความเหมาะสม
นอกจากนี้ นายกฯ ได้มอบหมายให้ ผวจ. และ ผบก.ภ. จว. เตรียมรับภัยธรรมชาติ ภัยแล้ง โดยขอให้ศูนย์ส่วนหน้าของกระทรวงมหาดไทยในทุกจังหวัด ดูแลการเตรียมรับภัยธรรมชาติต่าง ๆ โดยเฉพาะในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคมนี้มีโอกาสเกิดพายุหมุนได้สูง ซึ่งอาจจะมีผลกระทบใกล้เคียงกับพื้นที่ภาคใต้ จึงขอให้เพิ่มความระมัดระวังโดยเฉพาะพื้นที่ริมตลิ่ง ชายฝั่งที่เคยเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและผวจ. จะต้องสำรวจเพื่อดูแลประชาชน
การแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอให้เร่งรัดแผนงานพัฒนาการแก้ไขปัญหาดูแลความมั่นคง และการเข้าถึงพื้นที่ ในการสรุปรายละเอียดรายพื้นที่และแผนเพื่อปรับส่งมาที่ ศูนย์ปฏิบัติการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) เพื่อรวบรวมจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอและติดตามการทำงาน อย่างใกล้ชิด