สำหรับเนื้อหาในหนังสือดังกล่าวได้สรุปผลงานของรัฐบาลไว้ตามนโยบายทั้ง 16 ด้านดังนี้
1.การสร้างความปรองดองฟื้นฟูประชาธิปไตย รัฐบาลสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยการตั้งคณะกรรมการอิสระประสานงานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริง เพื่อการปรองดองแห่งชาติ(ปคอป.) โดยเร่งปฎิบัติงานให้สู่ความปรองดอง รวมถึงใช้งบประมาณ 1,373.93 ล้านบาท ในการเยียวฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบทางการเมือง
2.นโยบายการแก้ไขปัญหาและป้องกันยาเสพติดเป็น "วาระแห่งชาติ" มีการป้องกัน ปราบปราม บำบัดและรักษา โดยมีการออกตรวจพื้นที่เสี่ยงรอบสถานศึกษา บูรณาการผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านศูนย์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด และยกระดับปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งภูมิภาคระหว่างประเทศอาเซียน
3.นโยบายป้องกันและปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นในภาครัฐอย่างจริงจัง มีการจัดตั้งศูนย์ปฎฺบัติการต่อต้านการทุจริตในทุกกระทรวงรวมถึงตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริต เช่น ตรวจสอบการทุจริตโครงการจำนำข้าว การทุจริตงบฟื้นฟูสาธารณภัย เพิ่มช่องทางการแจ้งปัญหาทุจริต
4.นโยบายส่งเสริมการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการและเร่งรัดขยายพื้นที่ชลประทาน โดยรัฐบาลได้บริหารจัดการน้ำเพื่อบรรเทาและป้องกันน้ำท่วมในระยะเร่งด่วน รวมถึงดำเนินการเพื่อบริหารจัดการน้ำระยะยาว ใช้งบประมาณ 3.5 แสนล้านบาท และใช้งบประมาณฟื้นฟูเยีบวยา 1.2 แสนล้านบาท
5.เร่งแก้ไขปัญหาความไม่สงบและนำสันติสุขกลับสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็ว ซึ่งรัฐบาลยึดตามกระแสพระราชดำรัส เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนาเป็นแนวทาง รวมถึงส่งเสริมความมั่นคงและความปลอดภัย ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนทั้งการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบและโครงการในด้านต่างๆ
6.เร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับนานาประเทศ และขับเคลื่อนไทยเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงประชาคมอาเซียน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยจากนานาชาติ
7.แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการ เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและราคาน้ำมันเชื้อเพลิงจากความผันผวนของราคาน้ำมัน เช่น การชะลอการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงชั่วคราว ช่วยรักษาระดับราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ขยายเวลาการตรึงราคาก๊าซแอลพีจีในครัวเรือนถึงสิ้นปี 2555 เป็นต้น
8.ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส อาทิ ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ โครงการรถยนต์คันแรกและบ้านหลังแรก ปรับเงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท
9.ลดอัตตราภาษีนิติบุคคล เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชน และกระตุ้นการลงทุน โดยตั้งเป้าให้เหลือร้อยละ 20 ในปี 2556 เพื่อจูงใจให้เกิดการลงทุนและสนับสนุนค่าแรง 300 บาท ก่อให้เกิดกากระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ
10.ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้าและขยายโอกาสให้ประชาชน โดยการจัดตั้งกองทุนหมู่บ้าน กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี นโยบายส่งเสริมเอสเอ็มอี กองทุนตั้งตัวได้
11.ยกระดับราคาสินค้าการเกษตรให้เกษตรเข้าถึงแหล่งเงินทุน ส่งผลต่อความเป็นอยู่ของเกษตรกรที่ดีขึ้น อาทิ โครงการรับจำนำข้าว 15,000 บาท โครงการรักษาเสถียรภาพราคายางพารา การจัดให้มีบัตรสินเชื่อเกษตรกร
12.การสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศให้เติบโต โดยตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยว 2 ล้านล้านบาท ในปี 2558
13.สนับสนุนงานศิลปหัตถกรรมและผลิตภัณฑ์ชุมชน ส่งเสริมสินค้าโอทอป และผลิตภัณฑ์มูลนิธิศิลปาชีพ ต่อยอดสู่ระดับโลก
14.พัฒนาระบบประกันสุขภาพ ยกระดับคุณภาพ ลดความเลื่อมล้ำ และสร้างความเท่าเทียม
15.เติมความรู้ด้านการศึกษา ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์แท็บแล็ตให้แก่โรงเรียน พัฒนาโอกาสทางการศึกษา เข้าถึงแหล่งเรียนรู้
16.เร่งรัดและผลักดันการปฎิรูปการเมืองที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง โดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการเสนอกฎหมายปรองดอง ซึ่งเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของรัฐสภาแล้ว
ทั้งนี้จากนโยบายรัฐบาลและเร่งรัดติดตามการบริหารจัดการดังกล่าว คาดว่าจีดีพีปีนี้จะเติบโต 5.5 - 6.0 %