"ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาบริหารประเทศ ได้ปวารณาตัวในการทำงานรับใช้ประชาชน ต้องการที่จะมาแก้ไข แต่ไม่ได้แก้แค้น หลักการทำงานยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ยึดมั่นการทำงานแบบมืออาชีพ มีความซื่อสัตย์ยุติธรรม และมีการทำงานเป็นทีม...วิธีการทำงานของคณะรัฐมนตรีและรัฐบาลนี้ คือ นายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ในฐานะกำกับการบริหารราชการแผ่นดิน และมอบนโยบายต่าง ๆ ส่วนรองนายกรัฐมนตรี จะมีหน้าที่ในการกำกับการบริหารราชการของกระทรวงต่าง ๆ รวมถึงกระทรวงที่ได้รับมอบหมาย"
นายกฯ กล่าวว่า หน้าที่ของรัฐมนตรี ถือเป็นผู้บังคับบัญชาและรับผิดชอบในการกำหนดนโยบายเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ของงานกระทรวง อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ และไม่ได้ละเลยการทำงาน แต่ได้มีการทำงานในการติดตามความสำเร็จของงานอย่างต่อเนื่องและทุกระยะ การทำงานทุกเรื่องได้มีการมอบหมาย และมีการแบ่งขั้นตอนในความรับผิดชอบ ไม่มีการก้าวก่าย เพราะให้เกียรติซึ่งกันและกันในการทำงานที่ได้มีการระบุว่านายกรัฐมนตรีมีการเลือกปฏิบัตินั้น นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า กรณีตำรวจต้องไม่เลือกข้าง แต่เลือกประชาชนและความถูกต้อง โดยไม่เลือกปฏิบัติ โดยส่วนตัวแล้วได้ยึดมั่นในหลักประชาธิปไตยและการบริหารประเทศ ตลอดจนเคารพใน 3 เสาหลัก คือ งานด้านนิติบัญญัติ การบริหารราชการแผ่นดิน และตุลาการ ซึ่งอำนาจทั้ง 3 ส่วนก็ต้องทำงานอย่างสมดุลมีเสถียรภาพ ในส่วนของงานนิติบัญญัติ พร้อมที่จะผลักดันกฎหมายที่สำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน และเคารพต่อสภาฯ กรณีที่มีการตั้งคำถามกระทู้ ก็ได้มีการมอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องตอบคำถามกับสมาชิกฯ โดยตรงทุกครั้ง
ในส่วนของโครงการรับจำนำข้าว นายกฯ ยืนยันว่า เป็นไปด้วยความโปร่งใส ไม่ได้เปิดช่องให้เกิดการทุจริตตามข้อกล่าวหาของฝ่ายค้าน และจะไม่ให้การระบายข้าวจากสต๊อกได้ราคาต่ำกว่าการรับจำนำ
"จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา มีความโปร่งใส ไม่ให้ขาดทุนต่ำกว่าราคาข้าวในปีที่ผ่านมา" น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจงข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เงินที่ได้จากการขายข้าวที่รับจำนำในปีนี้จะสามารถส่งกลับคืนเข้าคลังในปีหน้าจำนวนราว 2.4-2.6 แสนล้านบาท พร้อมทั้งอ้างผลโพลล์ที่ออกมาชี้ให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่มีความพึงพอใจกับนโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาล
ส่วนมาตรการป้องกันการทุจริตนั้นได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้กำกับดูแล ซึ่งมีการจัดกำลังตำรวจเข้าไปตรวจสอบดูแลที่โกดังข้าวตลอด 24 ชั่วโมง และในอนาคตจะมีการติดตั้งทีวีวงจรปิด(CCTV) เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ตลอดเวลา ตลอดจนการก่อสร้างโกดังเพื่อจัดเก็บผลผลิตทางการเกษตรได้มากขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในแง่การส่งออกรัฐบาลคำนึงถึงเรื่องราคาข้าวมากกว่าปริมาณ ถึงแม้ไทยจะมีปริมาณการส่งออกข้าวเป็นอันดับสาม รองจากเวียดนามและอินเดีย แต่ในแง่ของราคา ข้าวของไทยยังครองแชมป์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรโดยตรง
ส่วนกรณีที่มีการจัดสรรงบประมาณ 1.2 แสนล้านบาทเพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำท่วมนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อที่ประชุมสภาฯ ได้อนุมัติงบประมาณจำนวนดังกล่าวแล้ว ครม.ได้ทยอยจัดสรรออกเป็น 12 ครั้ง ซึ่งมีเงินเหลือส่งกลับคลังประมาณ 6.2 พันล้านบาท และมีการตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นมาตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณทุกขั้นตอน