นายก่อแก้ว กล่าวก่อนขึ้นให้การต่อศาลว่า พร้อมที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงและพร้อมรับผิดชอบทุกคำพูดที่ได้กล่าวไว้บนเวทีปราศรัย ขณะเดียวกันก็จะยื่นเอกสารใหม่เพิ่มเติมเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้มีเจตนาตามที่ถูกกล่าวหา
ทั้งนี้ บริเวณริมถนนรัชดาภิเษก ด้านหน้าศาลอาญา มีกลุ่มมวลชนแนวร่วม นปช.เดินทางมาให้กำลังใจอย่างหนาแน่น แต่ยังไม่มีการปิดการจราจร
ด้าน พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2(รอง ผบก.น.2) กล่าวว่า จัดกำลังพลจาก บก.น.2, บก.น.3, กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน และตำรวจคอมมานโด กองปราบปราม อย่างละ 1 กองร้อย รวมทั้งกำลังพลจาก สน.พหลโยธิน เจ้าของพื้นที่อีก 60 นาย อีกทั้งยังมีตำรวจจราจรกลางอีก 15 นายมาคอยอำนวยสะดวกด้านการจราจร ซึ่งเบื้องต้นยังไม่มีการปิดการจราจร
วันเดียวกันนี้ จำเลยในคดีดังกล่าวทั้ง 24 คนจะต้องเดินทางมาศาล เพราะนอกจากจะนัดสอบถามจำเลยที่ 3-5 และจำเลย 9-10 แล้ว ศาลยังได้นัดสืบพยานโจทก์ในคดีก่อการร้ายที่พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องจำเลยทั้งหมดด้วย ซึ่งหากพนักงานอัยการนำพยานมาแล้วมีเวลาพอที่จะทำการสืบพยาน ศาลก็จะทำการสืบพยานทันที เนื่องจากคดีดังกล่าวอัยการได้ยื่นฟ้องมาตั้งแต่ปี 53 แต่ยังไม่สามารถเริ่มกระบวนการสืบพยานได้ เพราะอยู่ระหว่างเปิดสมัยประชุมสภาฯ ที่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองจำเลยที่เป็น ส.ส.ดังนั้นจึงต้องอาศัยช่วงปิดประชุมสภาเร่งสืบพยานให้ได้มากที่สุด
สำหรับจำเลยทั้ง 24 คน ประกอบด้วย นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ, น.พ.เหวง, นายก่อแก้ว, นายขวัญชัย สาราคำ หรือขวัญชัย ไพรพนา, นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก, นายนิสิต สินธุไพร , นายการุณ , นายวิภูแถลง หรือพิเชษฐ์ สุขจินดาทอง , นายสุขเสก หรือ สุข พลตื้อ, นายจรัญ หรือ ยักษ์ ลอยพูล, นายอำนาจ อินทโชติ, นายชยุต ใหลเจริญ, นายสมบัติ หรือแดง หรือผู้กองแดง มากทอง, นายสุรชัย หรือหรั่ง เทวรัตน์, นายรชต หรือกบ วงค์ยอด
และนายยงยุทธ ท้วมมี จำเลยที่ 1-19 คดีหมายเลขดำที่ อ.2542/2553, นายอร่าม แสงอรุณ หัวหน้าการ์ด นปช จำเลยคดี อ.4339/2553, นายเจ็มส์ สิงห์สิทธิ์, นายสมพงษ์ บางชม และนายมานพ ชาญช่างทอง กลุ่มการ์ด นปช. จำเลยคดีหมายเลขดำที่ อ.757/2554 และนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง จำเลยในคดีหมายเลขดำที่ อ.4958/2554