"การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นสิทธิของประชาชน ประเทศชาติ และประชาชนจะได้ประโยชน์ เนื้อหาเรายังไม่ได้กำหนด เราเพียงเสนอว่าประชาชนมีส่วนร่วมในการหาทางออกว่าจะให้รัฐธรรมนูญนี้เดินหน้าอย่างไร" นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เขียนจดหมายเปิดผนึกโดยต้องการให้ประชาชนล้มการทำประชามติในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถือเป็นสิทธิของแต่ละบุคคลที่จะแสดงความคิดเห็น แต่หากกระบวนการทุกอย่างเป็นไปด้วยความถูกต้องตามหลักประชาธิปไตย ทุกคนก็ต้องให้ความเคารพในกติกา และขณะนี้ขั้นตอนต่างๆ ยังอยู่ในระหว่างการมอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมและกระทรวงมหาดไทยไปหารือเพื่อหาข้อยุติว่าจะใช้วิธีการใดให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน ก่อนที่จะมาสรุปอีกครั้งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งหลังจากนั้นจะต้องหารือร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) รัฐสภา และวุฒิสภาเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันต่อไป
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังแสดงความเห็นด้วยที่จะต้องมีการทำประชามติทั้งก่อนและหลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะหลักการที่สำคัญคือต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน ส่วนกรณีที่มีการนำประเด็นนี้ไปเชื่อมโยงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ตลอดนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ระยะเวลาและการทำงานเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ ซึ่งตนได้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นที่ตั้ง