สำหรับข้อกังวลในเรื่องจะไม่ได้จำนวนเสียงที่จะต้องเกินกึ่งหนึ่งของการทำประชามตินั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จำนวนเสียงเป็นส่วนหนึ่งในข้อห่วงใย แต่ทั้งนี้จะต้องรอข้อสรุปจากคณะกรรมการฯ รวมถึงต้องดูในเรื่องหัวข้อการทำประชามติที่จะต้องมีการหารือในส่วนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประธานวุฒิสภา ประธานสภา ซึ่งรัฐบาลเป็นหน่วยงานหนึ่งที่ต้องการเห็นทางออกของประเทศ ซึ่งตามหลักการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นของรัฐสภา รัฐบาลทำหน้าที่ในการบริหารประเทศ แต่การพูดคุยก็เพื่อต้องการเห็นทางออกมากกว่า
"ย้ำว่ารัฐบาลจะทำหน้าที่เสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วม และให้เป็นไปตามครรลองของประชาธิปไตย ซึ่งจะถือว่าเป็นการเข็นครกขึ้นภูเขาหรือไม่นั้น เป็นเพียงข้อเสนอของ ร.ต.อ.เฉลิม ซึ่งต้องรอให้คณะกรรมการชุดดังกล่าวทำงานก่อน ขณะเดียวกันย้ำว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะในแนวทางใดก็ต้องใช้เวลา"นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกฯ กล่าวถึง ตัวบุคคลที่จะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ว่า ยังไม่ได้ระบุตัวบุคคลลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งต้องรอที่ให้มีมติจากที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ส่วนจะเป็นพล.ต.อ.พงศพัศ พงศ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเลขาธิการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ก็เป็นคนมีความรู้ ความสามารถ แต่จะระบุได้เมื่อไรต้องรอมติจากการประชุมพรรค