โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา น.ส.พวงทิพย์ บุญสนอง และนายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากนายสนธิ ลิ้มทองกุล และแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ได้เข้าพบนายประยุทธ ป.สัตยารักษ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 เพื่อขอเลื่อนนัดส่งตัวฟ้องศาลอาญาใน 3 คดี 1.การชุมนุมปิดล้อมอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 5-7 ต.ค.51, การบุกเข้าไปทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 26-31 ส.ค.51 และ 3.คดีหมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าเป็นคนทุจริตและหลบเลี่ยงการจ่ายภาษีบนเวทีปราศรัยการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ในช่วงที่มีการชุมนุมต่อเนื่อง 193 วัน เมื่อปี 51
นายประยุทธ กล่าวว่า วันนี้ได้นัดหมายทนายความกลุ่มพันธมิตรฯ ให้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คดี มาฟังคำสั่งฟ้องและนำตัวผู้ต้องหาไปส่งฟ้องต่อศาลอาญา แต่ปรากฏว่าไม่มีผู้ต้องหามาตามนัด ซึ่งทนายความกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ขอเลื่อนนัดส่งตัวผู้ต้องหาฟ้องศาล โดยอ้างว่า แกนนำคนพันธมิตรฯ คนสำคัญติดธุรกิจเร่งด่วน ประกอบกับศาลอาญามีนัดสืบพยานและนัดฟังคำสั่งคดีของแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง จึงไม่อยากให้มวลชนเสื้อเหลืองและเสื้อแดงเผชิญหน้ากัน แต่ตนเองพิจารณาแล้วเห็นว่า ที่ผ่านมาทางอัยการได้พิจารณาให้เลื่อนไปตามเหตุผลและความจำเป็นที่แจ้งมาเป็นเวลาพอสมควรแล้ว จึงเห็นว่า ควรดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรมเพื่อนำคดีขึ้นสู่การพิจารณาของศาลโดยเร็ว และไม่อนุญาตให้เลื่อนการส่งตัวผู้ต้องหาอีก พร้อมกับมีหนังสือแจ้งให้พนักงานสอบสวนไปดำเนินการนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาส่งฟ้องโดยด่วน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และออกหมายเรียกได้ก่อน หากขัดข้องประการใดให้ขอศาลออกหมายจับต่อไป
"ได้ส่งหนังสือให้ตำรวจตามตัวจำเลยทั้งหมดมาส่งฟ้องต่อศาลโดยด่วน การออกหมายจับเป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจ ถ้าหากยังไม่สามารถตามตัวมาได้ ตำรวจก็สามารถออกหมายเรียกหรือขอศาลออกหมายจับได้" นายประยุทธ กล่าว
ด้าน น.ส.พวงทิพย์ กล่าวว่า คดีนี้อัยการไม่อนุญาตให้เลื่อนนัดอีก โดยให้ตำรวจตามตัวมาฟ้องศาลโดยด่วน ดังนั้นในส่วนของทนายความจะนัดวันให้แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ มามอบตัวต่อไป คาดว่าประมาณเดือนมกราคมปีหน้า