ครม.รับทราบผลการบริหารโครงการลงทุนภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง

ข่าวการเมือง Tuesday December 25, 2012 17:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)รับทราบรายงานการบริหารโครงการลงทุนภายใต้ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 และเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Development Policy Loan : DPL) ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555

ทั้งนี้ ที่ประชุม ครม.รับทราบและอนุมัติให้ขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการภายใต้ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 หลังจากปีงบประมาณ 2555 วงเงินประมาณ 835.2666 ล้านบาท สำหรับโครงการเงินกู้(Development Policy Loan:DPL) ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข วงเงิน 3,426.3491 ล้านบาท ซึ่ง ครม.มีมติเมื่อวันที่ 7 ก.พ.55 ให้ทบทวนความจำเป็นเหมาะสม โดยสถานะปัจจุบันอยู่ระหว่างการทบทวนเพื่อนำเสนอ ครม. ดังนั้นเห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดชี้แจงข้อมูลตามข้อสังเกตของผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้โครงการสามารถเดินหน้าต่อไปได้ สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ต่อไป

นอกจากนี้ ยังอนุมัติดำเนินโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 และจัดสรรวงเงินเหลือจ่ายตาม พ.ร.ก.ในสาขาพัฒนาการท่องเที่ยวให้แก่กรมธนารักษ์สำหรับโครงการปรับปรุงอาคารและตกแต่งสำนักบริหารเงินตราเป็นพิพิธภัณฑ์ จำนวน 177.9303 ล้านบาท และจัดสรรเงินสำรองจ่ายตาม พ.ร.ก.สำหรับโครงการก่อสร้างและย้ายสำนักบริหารเงินตราไปโรงกษาปณ์รังสิต วงเงินรวม 306.073 ล้านบาท และขยายเวลาเบิกจ่ายเงินถึงเดือน ก.ย.56 โดยทั้ง 2 โครงการย่อยขยายเวลาเบิกจ่ายเงินถึงเดือน ธ.ค.56

และอนุมัติให้ยกเว้นการดำเนินการตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 18 ต.ค.54 ซึ่งให้รับข้อเสนอเพิ่มเติมของสำนักงบประมาณ โครงการ/รายการที่หน่วยงานเจ้าของโครงการได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี เมื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์แล้วมีเงินเหลือจ่าย หรือเป็นการยกเลิกโครงการ ให้รวมเป็นวงเงินเหลือจ่ายภายใต้สาขาเศรษฐกิจนั้น โดยไม่ควรนำมาพิจารณาจัดสรรใหม่อีก ทั้งนี้ ในกรณีโครงการใดเข้าข่ายต้องดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายใดให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัดต่อไปด้วย

อนุมัติจัดสรรเงินสำรองจ่ายเพื่อเป็นเงินชดเชยค่างานสิ่งก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้(ค่า K) และการคืนเงินค่าปรับให้แก่ผู้ประกอบการก่อสร้างสำหรับ ดังนี้ (1) กรมทางหลวงชนบท วงเงิน 2,417,287.00 บาท (2) กรมทางหลวง วงเงิน 42,578,335.00 บาท (3) กรมการขนส่งทางบก วงเงิน 1,074,408.00 บาท (4) มหาวิทยาลัย ราชภัฏพิบูลสงคราม วงเงิน 1,095,024.97 บาท (5) กรมชลประทาน วงเงิน 3,526,910.82 บาท (6) จังหวัดปทุมธานี วงเงิน 242,811 บาท

พร้อมทั้ง อนุมัติจัดสรรเงินสำรองจ่ายสำหรับโครงการจัดหาเครื่องมือป้องกันการติดต่อสื่อสารที่ใช้ในการกระทำความผิดในเรือนจำของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม วงเงิน 1,230.60 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ให้ดำเนินการโครงการให้เสร็จสิ้นก่อนเดือน ก.ย.56 โดยให้กรมราชทัณฑ์ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐที่มีงบประมาณเกินกว่า 100 ล้านบาท ทั้งนี้ ในกรณีโครงการใดเข้าข่ายต้องดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายใดให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัดต่อไปด้วย

รวมทั้ง อนุมัติการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 โดยหน่วยงานจะต้องส่งข้อมูลให้สำนักงบประมาณพิจารณาเพื่อขอจัดสรรเงิน ซึ่งรวมถึงแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันทำการ และอนุมัติการยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้างรายการครุภัณฑ์ของโครงการวิจัยสู่ภาคเอกชน ณ โครงการพัฒนาที่ดินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สระบุรี จำนวน 2 รายการ วงเงิน 693,100 บาท ได้แก่ 1) รายการชุดเครื่องผสม 1 ชุด วงเงิน 168,800 บาท และ 2) รายการรถยกของแบบฟอร์คลิฟต์และแฮนด์ลิฟต์ วงเงิน 524,300 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ