อย่างไรก็ตาม ไม่มีความกังวลกรณีที่ รมว.ต่างประเทศ จะฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้ที่กล่าวถึงผลประโยชน์ในคดีปราสาทเพราะวิหาร เพราะเป็นการตั้งคำถามอยู่บนพื้นฐานข้อมูลต่างๆ บนความสุจริต และเพื่อปกป้องประโยชน์สาธารณะ ขณะที่ทีมทนายถูกกดดันจากสังคม ดังนั้น นายสุรพงษ์ ควรเปลี่ยนทัศนคติ แทนที่จะหาเรื่องคนอื่น ควรพยายามเดินหน้าทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์รอบคอบ น่าจะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ที่สุด
ส่วนของกรณีที่เกิดขึ้น นายนพดล ปัทมะ ทนายความส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายก ออกมาเรียกร้องไม่ให้นำคดีปราสาทพระวิหารมาเป็นประเด็นการเมืองนั้น เห็นว่า นายนพดลควรตั้งคำถามว่าตัวเองก่อนว่าใครเป็นผู้เริ่ม ที่ผ่านมามีแต่คนของพรรคเพื่อไทยที่จุดประเด็น เพื่อกลบเกลื่อนมากกว่า
"นายสุรพงษ์จะพูดถึงว่า ถ้าแพ้คดีจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ต้องถามประชาชน ทำไม มีหน้าที่ในการต่อสู้คดีปกป้องแผ่นดินของประเทศตัวเอง และคิดว่าถ้าทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสมบูรณ์ที่สุดก็ไม่มีใครว่าอะไร ส่วนอนาคตข้างหน้าแนวทางการต่อสู้การรักษาดินแดนจะเป็นอย่างไรก็ค่อยว่ากัน ซึ่งรัฐบาลจะต้องศึกษาแนวทางการตั้งรับไว้ดวย" นายอภิสิทธิ์ กล่าว