น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท ทั่วประเทศ ได้ส่งผลกระทบให้ผู้ประกอบการที่มีกำไรต่ำโดยเฉพาะเอสเอ็มอี ซึ่งมีจำนวนกว่า 2.9 ล้านราย คิดเป็น 99.6% ของจำนวนวิสาหกิจทั้งหมด มีค่าแรงงานเพิ่มขึ้น 39.5% และต้องแบกรับต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านแรงงานเพิ่มขึ้น 6.4% ได้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจเอสเอ็มอีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จนเกิดปรากฎการณ์ปิดโรงงาน ย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่น งดโอที งดสวัสดิการต่างๆ เลิกจ่ายประกันสังคม เงินเดือนช้า หมุนไม่ทัน เห็นผลกันไปแล้ว ดังนั้น นโยบายนี้จึงหักดิบหนุ่มสาวโรงงานมีฝีมือให้ตกงานกระทันหัน เป็นการฆาตกรรมหมู่ประมาณ 14.6 ล้านคน
นอกจากนี้ นโยบายนี้ยังทำให้สินค้าแพงขึ้นไปรอแล้ว และคงราคาคงไม่ลดลง กลายเป็นส่วนหนึ่งที่กระชากค่าครองชีพของคนไทยทั้งชาติให้สูงขึ้นได้บริโภคสินค้าแพงมาร่วม 1 ปี 4 เดือน และกำลังถีบตัวสูงขึ้นต่อไป เห็นได้จากการปรับขึ้นค่าพลังงาน ค่าไฟฟ้า การรีดภาษี ส่งออกเจ๊ง รายได้เข้าไม่มี สินค้าการเกษตรที่เป็นรายได้หลักของชาติตกต่ำ
"ในรอบ 1 ปี 4 เดือนและต่อๆไปภายใต้รัฐบาลนี้ คนระดับรากหญ้า หรือ แรงงานนอกระบบ 24.1 ล้านคน ไม่ได้รับประโยชน์จากโยบายนี้ แต่พวกเขากลับต้องร่วมแบกรับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อ ของแพง โดยที่รายได้ของพวกเขาไม่ได้เพิ่มขึ้น นโยบายนี้จึงฆ่าคนจนให้ตายทั้งเป็น ประมาณ 24.1 ล้านคน" น.ส.มัลลิกา กล่าว