"การชุมนุมขอให้เป็นไปด้วยความสงบ ประเด็นเขาพระวิหาร ขอความกรุณาอย่าพูดเป็นประเด็นการเมือง" นายกรัฐมนตรี กล่าว
สำหรับความสัมพันธ์อันดีส่วนตัวกับนายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชานั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยืนยันว่าไม่มีผลต่อเรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาติ เพราะรัฐบาลจะต้องยึดหลักการปกป้องผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญและต่อสู้คดีความอย่างดีที่สุด พร้อมทั้งจะดูแลบรรยากาศตามแนวชายแดนไม่เกิดความตึงเครียด
"เราเองรู้จักส่วนตัว เราคุยได้ในลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ความรู้จักส่วนตัวไม่มีอะไรมาลบล้างความสำคัญในเรื่องผลประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง"นายกรัฐมนตรี กล่าว
อย่างไรก็ดี สำหรับความคืบหน้าในเรื่องนี้ได้มอบหมายให้นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ไปหารือในเรื่องแนวทางการต่อสู้ทางกฎหมาย แต่หากมีประเด็นใดที่สำคัญก็ต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา เพื่อให้สมาชิกรัฐสภาได้แสดงความคิดเห็น
นายกรัฐมนตรี ระบุด้วยว่า ตามที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศปก.กปต.) เตรียมเดินทางเยือนประเทศมาเลเซียระหว่างวันที่ 8-10 ม.ค.นี้ว่า ตนไม่ได้มอบหมายเรื่องใดเพื่อให้ไปหารือเป็นพิเศษ เพราะร.ต.อ.เฉลิม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ฯ ย่อมทราบภารกิจของรัฐบาลอยู่แล้ว และคาดว่าจะเป็นการหารือเพื่อเน้นความร่วมมือในการสร้างความสงบในพื้นที่
ส่วนการติดตามปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ได้มอบหมายให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องไปสร้างความเข้าใจในพื้นที่ พร้อมกันนี้ได้นัดประชุมหารือกับทุกกระทรวงอยู่แล้ว
ส่วนกรณีการส่งผู้สมัครลงชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในนามของพรรคเพื่อไทยนั้น นายกรัฐมนตรี คาดว่า จะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ แต่การเคาะตัวผู้สมัครเป็นหน้าที่คณะกรรมการบริหารพรรคที่จะพิจารณา โดยนายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ไม่ว่าตัวแทนพรรคจะเป็นเพศหญิงหรือชายก็ตาม จะต้องเป็นบุคคลที่เข้าใจและมีเจตนารมย์มุ่งมั่นที่จะทำงานให้กับคนกรุงเทพฯ