อย่างไรก็ตาม เมื่อประเทศมาถึงจุดที่หลายฝ่ายเห็นตรงกันว่าต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ยังมีคนเห็นแตกต่างอยู่เรื่อยๆ จนกว่าจะหาข้อยุติได้ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะดำเนินการโดยกระบวนการใด ซึ่งครั้งนี้เป็นโอกาสที่จะนำเสนอความคิดเห็นให้ประชาชนได้คิดพิจารณาว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยในประเด็นต่างๆ
"ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย ขณะนี้ยังมีสถานะเท่ากัน ซึ่งเป็นความเห็นส่วนบุคคล" นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ ระบุว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทย, รัฐบาล และรัฐสภา ยังไม่มีมติที่ชัดเจนเกี่ยวกับเนื้อหาสาระ ส่วนระยะเวลาจะใช้เวลาเท่าใดคงไม่สำคัญเท่ากับฝ่ายที่เห็นควรให้แก้ไขที่จะต้องตกผลึกและเห็นตรงกันอย่างเป็นเอกภาพก่อนดำเนินการ เนื่องจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญคราวนี้จำเป็นต้องใช้ความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายการเมือง ฝ่ายประชาชน เพื่อดำเนินการได้อย่างลุล่วง
"ตัวรัฐธรรมนูญเองมีหลายบทบัญญัติ หลายมาตราที่มีกับดัก สำหรับใครที่จะแก้ไข แต่ยังไม่รวมบทบาทขององค์กรอิสระ บางหน่วยงานที่พร้อมจะออกมาแสดงอำนาจหรือใช้อำนาจนอกเหนือกฎหมายบัญญัติไว้ เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อรัฐธรรมนูญ อันนี้ถือว่าไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์เกินเลย แต่พูดไปตามเนื้อผ้าอย่างที่เห็นตามที่ผ่านมา" นายณัฐวุฒิ กล่าว