นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) บิดเบือนอย่างต่อเนื่องว่า ถ้าไม่มีคำแถลงการณ์ร่วมของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช แล้ว กัมพูชาจะไม่สามารถขึ้นทะเบียนมรดกได้นั้น ขอย้ำอีกครั้งว่าไม่เป็นความจริง เพราะกัมพูชายื่นขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก ตั้งแต่ก่อนยุครัฐบาลนายสมัครจะเข้ารับตำแหน่ง แต่ปัญหาอยู่ที่ว่ากัมพูชาจะขึ้นทะเบียนทั้งตัวปราสาทพระวิหารและพื้นที่ทับซ้อน รัฐบาลนายสมัครจึงต้องเจรจาเพื่อขอให้ตัดพื้นที่ทับซ้อนออก ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลนายสมัครเป็นผู้ปกป้องดินแดนพื้นที่ทับซ้อนเอาไว้ ไม่ให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนมรดกโลกสำเร็จ กัมพูชาจึงขึ้นทะเบียนมรดกโลกได้เฉพาะตัวปราสาท
"ตัวปราสาทเป็นของกัมพูชาตามคำตัดสินของศาลโลกตั้งแต่เมื่อ 50 ปีที่แล้ว ไม่ใช่ว่านายสมัคร หรือ นายนพดล ยกตัวปราสาทให้กัมพูชา ตามที่พรรคประชาธิปัตย์บิดเบือน ดังนั้น กัมพูชาก็สามารถขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีคำแถลงการณ์ร่วมอยู่แล้ว แต่ปัญหาที่รัฐบาลนายสมัครต้องแก้ไขในขณะนั้น คือ ต้องเจรจาให้กัมพูชาตัดพื้นที่ทับซ้อนออกไปไม่ให้เอาไปขึ้นทะเบียนมรดกโลกด้วย ดังนั้น แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาจึงทำขึ้นเพื่อปกป้องดินแดน ไม่ใช่เพื่อช่วยกัมพูชาให้นำตัวปราสาทไปขึ้นทะเบียนมรดกโลก"นายนพดล กล่าว
นอกจากนั้น คณะกรรมการมรดกโลกห้ามไม่ให้นำแถงการณ์ร่วมฯ เข้ามาพิจารณา ตามข้อ 5 ของมติคณะกรรมการมรดกโลก เมื่อวันที่ 7 ก.ค.51
"คดีที่อยู่ในศาลโลกขณะนี้ก็ไม่เกี่ยวกับแถลงการณ์ร่วมฯ เพราะเป็นคดีเกี่ยวกับการตีความคำตัดสินของศาลโลกที่เกิดขึ้นเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ซึ่งพวกผมยังไม่เกิดด้วยซ้ำ"นายนพดล กล่าว