พล.ท.ไพบูลย์ คุ้มฉายา แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าว ว่าทหารเพียงเดินทางไปแสดงออกในความเป็นทหารของเขา เราไม่ได้ไปข่มขู่ ซึ่งก่อนที่ทหารจะเดินทางไปก็ได้มาขออนุญาตกับตนแล้ว คิดว่า เมื่อเขาอยากทำก็ให้ทำ ตนจึงได้ตัดสินใจอนุญาตให้ไป เพราะตนจะไปจำกัดสิทธิ์ที่เขาจะแสดงออกต่อผู้บังคับบัญชาไม่ได้ แต่ได้บอกว่า อย่าทำผิดกฎหมาย อย่าระรานใคร ต้องทำบนพื้นฐานเคารพสิทธิของผู้อื่น และเคารพกฎหมายของบ้านเมือง ต้องไปพูดกับเขาให้เข้าใจ ไม่ใช่ไปพูดจาข่มขู่ ซึ่งเราไม่ได้ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย แต่หากทหารไปทำอะไรผิด ตนจะเป็นคนจับมาลงโทษเอง ทั้งนี้ต้องเข้าใจว่า การรักนายถือเป็นคุณสมบัติของทหาร ถ้าจะแสดงออกว่า รักผบ.ทบ.รักผู้บังคับบัญชา ถือเป็นเรื่องปกติ และถือเป็นคุณสมบัติขององค์กร แต่เรื่องนี้แล้วแต่มุมมองใครก็สามารถมองได้ ส่วนจะมีทหารออกมาอีกหรือไม่ ตนไม่รู้ แต่ถ้าขอมาตนก็คงให้ไป เพราะไม่มีสิทธิ์ไปห้ามเขาได้ แต่ขอร้องว่า อย่าไปเกเร
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่มีสื่อบางฉบับนำเสนอข่าวเชิงตำหนิ ผู้บังคับบัญชาและกองทัพบกต่อกรณีปัญหาปราสาทเขาพระวิหารว่า ขอเรียนว่า กองทัพบกจำเป็นต้องแก้ปัญหาตามแนวทางกรอบกติกา ข้อตกลงพันธะสัญญา และคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งการแก้ปัญหาในระดับของกองทัพบกมีการจัดทำแผนการปฎิบัติไว้หลายแนวทางครอบ คลุมในทุกมิติ มีทั้งสามารถเปิดเผยได้ และเปิดเผยไม่ได้เพราะเกรงว่า จะส่งผลเสียต่อการแก้ปัญหาโดยรวม ทั้งนี้กองทัพบกโดย ผบ.ทบ. ยืนยันพร้อมรับฟังเสียงจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นประชาชน สื่อ รวมถึงกลุ่มพลังต่าง ๆ ที่จะสามารถเสริมให้องค์กร ได้บรรลุถึงประสิทธิผล จนนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดของประเทศ และที่สำคัญเพื่อความพึงพอใจของประชาชนในสังคมส่วนรวมด้วย. แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย และกฎกติกา ของทางบ้านเมือง
"กองทัพบกไม่อยากให้ สื่อ ประชาชน หรือกลุ่มพลังใดๆ ก็ตาม มองกองทัพบกเป็นฝั่งตรงข้าม เพียงเพราะ ไม่ได้แสดงออกถึงการสนับสนุนคล้อยตามความเห็นหรือคล้อยตามการแสดงออกของ สื่อ หรือประชนบางกลุ่ม. จนนำไปสู่การว่ากล่าวให้ร้ายกัน มีการให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง โดยเฉพาะในบางข้อมูลมีข้อความไม่ตรงกับข้อเท็จจริง อาจเป็นเพียงความรู้สึกหรือจินตนาการเชิงลบของผู้ให้ข้อมูล จึงอาจเป็นเหตุให้นำไปสู่ความไม่เชื่อมั่นในตัวผู้บังคับบัญชา และกองทัพบก รวมถึงทำให้สถาบันกองทัพบกเสียหาย อยากขอร้องประชาชน ทุกภาคส่วน สื่อ เชื่อมั่นในแนวทางการทำงาน การแก้ปัญหา ของ ทบ. ที่สำคัญอยากให้ใช้สติและวิจารณญาน ใช้เหตุใช้ผลทำความเข้าใจเพื่อความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ด้วย. การดำเนินการทุกอย่างนั้นเป็นไปตามระบบ ทุก ๆ กระบวนการสามารถตรวจสอบได้ทั้งสิ้น"รองโฆษกกองทัพบก กล่าว