ขณะเดียวกันต้องเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เสี่ยง เพื่อเสริมกำลังทหารในการดูแลความปลอดภัย โดยเสนอเพิ่มกำลังตำรวจใหม่ 6 พันอัตรา และต้องให้อำนาจแก่ท้องถิ่น เช่น ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านสามารถการบริหารจัดการพื้นที่เสี่ยงภัย และการอนุญาตให้พกพาอาวุธเพื่อป้องกันอันตรายต่อตนเองและชาวบ้านในพื้นที่ แต่แนวคิดทั้งหมดต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน เพื่อวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียก่อนปฏิบัติจริง
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เตือนให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.ระมัดระวังเรื่องการหาเสียงเกินขอบเขตอำนาจหน้าที่นั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ขอน้อมรับคำเตือน และจะระมัดระวังให้มากขึ้น แต่ที่ผ่านมาไม่เคยหาเสียงเกินขอบเขตอำนาจ และไม่เคยใช้อำนาจรัฐเข้าไปช่วยผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยหาเสียง ดังนั้นจึงมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดกฏหมาย และไม่ห่วงว่าจะมีผู้นำเรื่องดังกล่าวไปร้องเรียนเพื่อให้ยุบพรรคเพื่อไทย เพราะได้ศึกษาข้อกฏหมายมาแล้ว