ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยตั้งจุดปราศรัยย่อยกว่า 100 จุดทั่วกทม.นั้น ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้หาเสียงตั้งจุดปราศรัยย่อยในลักษณะใช้รถแห่ประชาสัมพันธ์ตั้งเวทีปราศรัยย่อยตามจุดต่าง ๆ เช่นชุมชน ตลาดนัด ตลาดสด สวนสาธารณะ รวมแล้วกว่า 100 จุดเช่นกัน โดยเปิดเสียงปราศรัยของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ด้วย และคาดว่า 1 เดือนต่อจากนี้จะสามารถเปิดจุดปราศรัยย่อย ๆ ได้เพิ่มอีก รวมแล้วน่าจะเกิน 300 จุด
และจากนี้ไป 1 เดือนก่อนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ทางพรรคจะเดินหน้านำเสนอนโยบายในป้ายประชาสัมพันธ์ 7 รูปแบบ 7 นโยบายสำคัญ คือ 1.นโยบายกรุงเทพฯสีเขียว สะอาด สวยงาม โดยจะเพิ่มสวนสาธารณะอีก 5,000 ไร่ ,สวนสุนัขใน 4 มุมเมือง ,ถนน ตรอก ซอย สะอาดทุกวัน และใช้ระบบการจัดเก็บขนถ่ายขยะด้วยไฟฟ้า และนำสายไฟฟ้าลงดิน 2. เมื่อป่วย..เราดูแล ไม่ป่วย..เรามีรางวัล คือการยกระบบการบริหารสาธารณสุขใกล้บ้าน ให้รางวัลคนไม่ป่วยปีละ 1,000 บาท พร้อมตรวจสุขภาพฟรีปีละ 1 ครั้ง
3. เด็กกทม.อิ่มท้อง สมองดี มีวินัย เก่งภาษาอังกฤษ 4. กรุงเทพฯ มหานครอาเซียน 5. กรุงเดินทางรวดเร็ว สะดวก ประหยัด 6. กรุงเทพฯปลอดภัย เฝ้าระวังภัย ยาเสพติด และ7. กรุงเทพฯ ทุกชีวิตปลอดภัยจากภัยพิบัติ เช่น การตั้งศูนย์บริหารจัดการปัญหาภัยพิบัติเร่งด่วน
ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าหากคนกรุงเทพฯ ได้พิจารณานโยบายของ ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม จากพรรคประชาธิปัตย์ จะทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น เพราะเป็ฯนโยบายที่ทำได้จริง สามารถทำต่อได้ทันที ไม่ใช่นโยบายเพ้อฝัน มีงบประมาณที่ทำได้ โดยไม่ต้องพึ่งงบประมาณจากส่วนอื่นที่ยังไม่แน่นอนว่า
นายองอาจ กล่าวอีกว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำหนังสือขออนุญาตไปยังเหล่าทัพต่าง ๆเพื่อขอเข้าไปหาเสียงในหน่วยงานทหารตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะนี้เพียงแต่รอการตอบรับจากผู้บัญชาการเหล่าทัพต่าง ๆ เท่านั้น คาดว่าคงไม่มีปัญหา เพราะก่อนหน้านี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ระบุว่า จะอนุญาตให้ผู้สมัครเข้าไปหาเสียงในหน่วยงานทหารได้