ทั้งนี้ สำหรับตัวเลขที่โพลล์ระบุว่ายังมีประชาชนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกใครนั้น พรรคเพื่อไทยจะพยายามนำเสนอนโยบายลงไปสู่พี่น้องชาวกรุงเทพฯ ให้ได้มากที่สุดซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการส่งรถหาเสียง 7 คันออกไปตระเวนในทั้ง 50 เขต และเปิดเวทีปราศัยย่อย 150 เวที ในการนำเสนอนโยบายต่างๆ
พร้อมกันนี้ พรรคเพื่อไทยยังเตรียมจัดเวทีปราศรัยใหญ่อีก 3 เวที โดยวันที่ 15 ก.พ.นี้จะจัดปราศรัยที่การเคหะบางกะปิ, วันที่ 22 ก.พ. จะจัดที่บริเวณลานใต้สะพานพระราม 8(ฝั่งธนบุรี) และวันสุดท้ายวันที่ 1 มี.ค. จะจัดที่อนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี
"ทางพรรคต้องขอขอบคุณทุกโพลล์ของทุกสำนัก เข้าใจว่าเหนื่อยที่ได้จัดทำ แต่ทางพรรคให้ความสนใจมากที่สุดคือ ในเรื่องของผู้ที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร พรรคเองก็จะทำงานเต็มที่ที่จะนำเสนอนโยบายไปสู่พี่น้องชาว กทม. และหลังจากนี้ทุกวันพุธ พรรคเพื่อไทยจะนำเสนอนโยบายเพื้อที่จะทำงานให้กับท่านไปอีก 4 ปีข้างหน้า และหวังว่าท่านจะรับนโยบายเหล่านี้ไปพิจารณา และวันที่เลือกตั้ง ท่านจะมีคำตอบอยู่ในใจว่าจะเลือกใครเข้ามาดูแลกรุงเทพฯ เมืองหลวงของเรา" นายดนุพร กล่าว
รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าระยะเวลาที่เหลืออีกราว 3 สัปดาห์นี้ พรรคเพื่อไทยจะนำเสนอนโยบายต่างๆ ต่อพี่น้องประชาชนชาวกทม.ได้อย่างครบถ้วน เช่น นโยบายด้านการดูแลความปลอดภัยต่อทรัพย์สินที่ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครของพรรคได้แถลงไปในวันนี้ และสัปดาห์หน้าจะนำเสนอรายละเอียดของนโยบายเรื่องการจราจร และการขนส่งมวลชน
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 9 จากพรรคเพื่อไทย ได้ดำเนินการแจ้งความกับผู้ที่ทำลายป้ายหาเสียงนั้น พรรคเพื่อไทยขอยืนยันว่า พล.ต.อ.พงศพัศ ไม่ได้นำส่งใครเข้าแจ้งความใดๆ ทั้งสิ้น เนื่องด้วยเหลือเวลาอีกเพียง 20 กว่าวัน ทางพรรคมุ่งเน้นนำเสนอนโยบายให้พี่น้องประชาชนชาว กทม.เป็นหลัก ประกอบกับที่เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าพรรคจะหาเสียงอย่างสร้างสรรค์ ดังนั้นนั้นเรื่องป้ายหาเสียงที่มีการถูกทำลายไปบ้างนั้นถือเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งพรรคเพื่อไทยไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด