นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้เสนอความเห็นผ่านไปหน่วยงานความมั่นคงเพื่อให้พิจารณาสิ่งที่ควรทำก่อน-หลัง โดยจะเน้นไปที่การวิเคราะห์ปัญหาว่าเกิดจากสาเหตุใดและนำสถิติการก่อเหตุความรุนแรงไปประเมิน ถ้าหากเป็นการก่อเหตุเกิดขึ้นในพื้นที่เดิมเป็นสิ่งที่ฝ่ายความมั่นคงจะต้องไปวิเคราะห์ว่ามาตราการการรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่นั้นเพียงพอหรือไม่ ขณะที่ยังมีแนวคิดที่จะไปจัดประชุมครม.สัญจรในพื้นที่ภาคใต้
ส่วนกรณีที่คนร้ายก่อเหตุกับครูสอนทำนา รวมทั้งพ่อค้ารับซื้อผลไม้ จะกระทบต่อแนวทางที่รัฐบาลตั้งใจเน้นการพัฒนาในพื้นที่หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่าหากในพื้นที่ที่สงบแล้ว สามารถให้ ศอ.บต.และผู้ว่าราชการจังหวัดเข้าไปดูแล แต่หากพื้นที่ใดยังมีปัญหาความไม่สงบแม้จะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยพัฒนาอยู่แล้ว แต่ก็จำเป็นต้องให้ฝ่ายความมั่นคงเข้าไปช่วยดูแลด้วย
สำหรับกรณีที่มีการนำเสนอร่าง พ.ร.ก.นิรโทษกรรม ที่มีการมองว่ารัฐบาลดึงเรื่องไว้นั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ดึงเวลา แต่เนื่องจากมีผู้เสนอกฎหมายดังกล่าวเข้ามาหลายฉบับ มีหลายแนวทาง โดยตนได้ส่งเรื่องให้นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ศึกษาธิการ ให้เร่งดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว แต่ยังอยู่ในช่วงการหารือข้อสรุป เพราะส่วนตัวอยากเห็นประเทศเดินหน้าต่อไปได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กลไกลที่ถูกต้อง ทั้งนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จได้ภายในปีนี้หรือไม่
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า การดำเนินการของรัฐบาลได้ทำเพื่อประโยชน์ของทุกคน ไม่ได้ทำเพื่อหวังจะให้ประโยชน์แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือเพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตามที่หลายฝ่ายเป็นกังวล
ส่วนกรณีที่นายสนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม เดินทางมาเข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องคดีความของนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ โดยในส่วนการดำเนินคดีนั้น ยืนยันว่าจะไม่มีการเมืองเข้าไปแทรกแซงอย่างแน่นอน เพราะต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการไปตามขั้นตอน