“ขอตำหนิ และขอประณาม บุคคลที่ดำเนินการปล่อยข่าวดังกล่าวด้วยวิธีสกปรก และขอให้หยุดการกระทำเพราะจะไม่เกิดประโยชน์ในทางที่ดี ...มันเป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริง โดยหลายต่อหลายๆ ครั้ง ที่ผมพยายามไม่ให้ความสำคัญในประเด็นเหล่านั้น มองว่า เป็นการปล่อยข่าว เพื่อลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาล อย่างเช่น ผมเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนอัสสัมชัน จะขายที่โรงเรียนอัสสัมชัน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจสำหรับคนที่ปล่อยข่าวในเรื่องนี้" นายกิตติรัตน์ กล่าว
ทั้งนี้การปล่อยข่าวสร้างความเสียหาย และลดความน่าเชื่อถือของประเทศลง มองว่าไม่เป็นผลดี เพราะการดำเนินการของรัฐบาล พยายามให้ความสำคัญมากกับเรื่องความโปร่งใส และทุกเรื่องสามารถอธิบายได้ และดำเนินการด้วยความรอบคอบ โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 2.2 ล้านล้านบาท มีการดำเนินการที่รอบคอบ และปรึกษาหารือกับส่วนราชการ ที่สำคัญพร้อมจะร่วมหารือกับภาคเอกชนเพื่อให้เกิดความรอบคอบ
"หากดำเนินการในเรื่องใดจะชี้แจงให้ทราบก่อนทุกครั้งเพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจน ยืนยันว่า ไม่มีเรื่องใดที่แอบทำขอให้สบายใจได้ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ และให้สบายใจได้ในเรื่องของระดับหนี้สาธารณะ" นายกิตติรัตน์ กล่าว
นอกจากนี้ นายกิตติรัตน์ กล่าวด้วยว่า ขอให้หยุดปล่อยข่าวต่างๆ ทั้งเรื่องที่ว่ามีการเมืองบีบบังคับให้ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยลาออก