ซึ่ง สตช. ได้ตั้งคณะกรรมการดูกรณีการยกเลิกสัญญา และทำสัญญาใหม่ อีกทั้งในสัปดาห์หน้าทางสตช. จะเชิญผู้กำกับการสถานีตำรวจทั้ง 396 แห่ง มารับนโยบายในการแก้ไข ซึ่งในที่ประชุมต่างพอใจกับการแก้ไขปัญหาของสตช.
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้มีการใช้กฎหมาย และกวดขันการค้ามนุษย์ ในเด็กและสตรี โดยให้สตช. ทำงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทย, เน้นย้ำให้ตำรวจใช้กฎหมายตามหลักมนุษยธรรม ดูแลปัญหากลุ่มมุสลิมโรฮิงญาหลบหนีเข้าเมือง
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงการติดตั้งกล้อง CCTV ทั่วประเทศว่าจะต้องได้มาตรฐาน จดจำคนร้าย เก็บรายละเอียดได้เป็นอย่างดี โดยผบ.ตร. ได้ชี้แจงว่าจะใช้ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.02) เป็นศูนย์ CCTV ขณะที่ภาคใต้จะใช้ศูนย์ปฏิบัติตำรวจชายแดนภาคใต้ จังหวัดยะลา
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเน้นการวิเคราะห์ แยกแยะปัญหาสถานการณ์ ที่เกิดความรุนแรงขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่ามาจากสาเหตุใด อาทิ เรื่องส่วนตัว หรือการขัดผลประโยชน์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.ปิยะ ระบุว่าในที่ประชุมไม่ได้มีการพูดคุยถึงการประกาศใช้เคอร์ฟิวส์ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้