โดยนายจิรายุ กล่าวว่า ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีกล่าวเสมอว่าพรรคเพื่อไทยจะต้องหาเสียงด้วยแนวความคิดบวก และที่ผ่านมาในการเลือกตั้งใหญ่พรรคก็โดนใส่ร้ายป้ายสีทุกรูปแบบ แต่พรรคก็ไม่ตอบโต้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ขอให้ตั้งหน้าตั้งตานำเสนอนโยบายที่ดีดีให้กับสังคมไทย เพราะพรรคเพื่อไทยมีสิ่งเดียวที่จะอยู่ได้คือประชาชนเท่านั้น
"วันนี้การสำรวจความคิดเห็นของประชาชนหรือโพล จะเป็นอย่างไรนั้นคงไปห้ามเขาทำไม่ได้เว้นแต่มีกฎหมายบังคับ และที่สำคัญโพล หลายสำนักก็ไม่เป็นคุณกับเรา ก็ไม่เห็นมีใครไปต่อว่าต่อขานอะไร" รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว พร้อมไม่เชื่อว่าสถาบันการศึกษาหลายแห่งที่ทำโพลจะรับใช้ใคร เพราะแต่ละแห่งก็เป็นสถาบันสำรวจความคิดเห็นที่มีเกียรติมีศักดิ์ศรี และทำงานมานานหลายสิบปี หากจะเอาเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.มาทำลายชื่อเสียงตัวเองคงไม่คุ้ม
นายจิรายุ กล่าวด้วยว่า กกต.ควรจะพิจารณาออกกฎหมายไปเลยว่า ห้ามทำโพลหรือห้ามประกาศผลโพลในช่วงที่มีการเลือกตั้งก่อนวันสมัคร 120 วัน และหลังวันสมัครเท่าไรจะได้ไม่มีปัญหา เพราะหากกฎหมายไม่ห้าม สำนักโพลก็ทำตามกรอบกฎหมายเลือกตั้งกันมานานแล้ว
ส่วนการหาเสียงของพรรคการเมืองยังคงดำเนินการกันอย่างเข้มข้น และในครั้งนี้ถือว่ามีวิชามารเยอะมาก เช่น การใส่ร้ายป้ายสียังทวีความเข้มข้น การเก็บทำลายป้ายยังมีอยู่มากมาย โดยเฉพาะพวกแต่งเติมหน้าตาป้ายหาเสียง ซึ่งวันนี้พรรคกำชับให้ผู้ปฎิบัติ งานในพื้นที่เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง ซึ่งหลายเขตก็มีการแจ้งความดำเนินคดีกันบ้างแล้ว