ในการกล่าวสุนทรพจน์ขึ้นรับตำแหน่งผู้นำหญิงคนแรกของเกาหลีใต้ น.ส.ปัก วัย 61 ปีได้กล่าวว่า การทดลองนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเมื่อต้นเดือนนี้เป็นการท้าทายการอยู่รอดและอนาคตของประชาชนชาวเกาหลี และผู้รับเคราะห์หนักที่สุดก็ไม่ใช่ใคร นอกจากเกาหลีเหนือเอง
"ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เกาหลีเหนือจะสามารถก้าวหน้าไปพร้อมกันในฐานะสมาชิกที่มีความรับผิดชอบของประชาคมโลก แทนที่จะสิ้นเปลืองทรัพยากรไปกับการพัฒนานิวเคลียร์และขีปนาวุธ และหันหลังให้กับโลกด้วยการโดดเดี่ยวตนเอง" ปธน.คนใหม่ของเกาหลีใต้กล่าว
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นอกจากประเด็นนิวเคลียร์แล้ว น.ส.ปักยังได้เรียกร้องให้เกาหลีใต้เพิ่มความพยายามเป็นสองเท่าเพื่อเอาชนะวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยเธอระบุว่า ลัทธิทุนนิยมกำลังเผชิญความท้าทายใหม่ๆซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตการเงินโลก
"รัฐบาลชุดใหม่จะนำพาความหวังใหม่ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ นำพาความผาสุขของประชาชน และวัฒนธรรมที่เบ่งบานของเรา" น.ส.ปักกล่าว
พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งจัดขึ้นที่รัฐสภาต่อหน้าผู้เข้าร่วมพิธีประมาณ 70,000 คน ซึ่งรวมถึงคณะผู้แทนระดับสูงจากต่างประเทศ 22 คน เช่น ทอม โดนิลอน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ, ทาโร่ อาโสะ รองนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และนายหลิว หยานตง สมาชิกคณะกรรมการประจำกรมการเมืองแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน
น.ส.ปัก ซึ่งเป็นบุตรสาวของอดีตประธานาธิบดีปัก จุง ฮี ขึ้นดำรงตำแหน่งต่อจากนายลี มยอง บัก และจะมีวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีนาน 5 ปี