"วันนี้พรรคเพื่อไทยได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับรายชื่อบุคคลแปลกปลอมเข้ามาสวมสิทธิ์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.โดยไม่ถูกต้องที่เขตบางแค เขตภาษีเจริญ และเขตวังทองหลาง มามอบให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องต่อไป" ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองโฆษกศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.กล่าว
โดยเมื่อวานนี้(28 ก.พ.56) พรรคเพื่อไทยได้นำคณะสื่อมวลชนลงไปดูข้อเท็จจริงที่หมู่บ้านเศรษฐกิจ เขตบางแค ซึ่งเป็นบ้านของนายชาญชัย ยวงพานิช เพื่อเป็นการยืนยันว่าปัญหาดังกล่าวมีอยู่จริง โดยหลักฐานของทั้ง 3 เขตที่ประชาชนแจ้งเข้ามาว่ามีปัญหา โดยเฉพาะกรณีของเขตบางแค ซึ่งเป็นบ้านของนายชาญชัย มีรายชื่อนายชาญชัย อยู่ในทะเบียนบ้านเพียงคนเดียว แต่ในหนังสือที่ได้รับแจ้งจาก กกต.ปรากฎว่ามีบุคคลแปลกปลอมอีก 6 คน ซึ่งนายชาญชัย ไม่รู้จักโผล่เข้ามาเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งในทะเบียนบ้านของนายชาญชัยด้วย ที่สำคัญยังเอารายชื่อบุคคลแปลกปลอมทั้ง 6 คนไปใส่ชื่อไว้ในบ้านเลขที่เก่าของนายชาญชัย ซึ่งยกเลิกไปแล้วเมื่อ 3 ปีก่อน
"มีการกำหนดให้บุคคลแปลกปลอมทั้งหมดไปเลือกตั้งคนละคูหากับนายชาญชัย เหมือนไม่ต้องการให้เจอกันอีกด้วย ซึ่งขณะนี้ นายชาญชัย ได้ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานแล้วที่สถานีตำรวจนครบาลหลักสอง" ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าว
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยได้นำสำเนาทะเบียนบ้านของนายชาญชัยมาแสดงกับ กกต. และสื่อมวลชน เพื่อยืนยันว่า บ้านหลังนี้มีรายชื่อบุคคลในทะเบียนบ้านเพียงรายชื่อเดียวและมีการเปลี่ยนเลขที่บ้านตามกฎหมายไปแล้วจริงๆ
"เรายังไม่ขอกล่าวหาใคร เพราะเรายังไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เหตุที่เดินทางมา กกต.ในวันนี้ ก็ยังไม่ใช่การร้องเรียน แต่เป็นการเข้ามาให้ข้อมูล ตามที่ กกต.ทำหนังสือร้องขอเข้ามาที่พรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคเพื่อไทยยินดีให้ความร่วมมือเพราะเห็นว่าควรมีการแก้ไขให้ถูกต้อง เพราะเราอยากเห็นการเลือกตั้งมีความบริสุทธิ์ยุติธรรม ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็จะติดตามอย่างใกล้ชิดว่าในวันเลือกตั้งจริง คือ วันที่ 3 มี.ค นี้ จะมีผู้มาใช้สิทธิโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจะตั้งชุดเฉพาะกิจขึ้น เพื่อจับตาดูความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติในทุกเขต หากในวันเลือกตั้งไม่มีใครแปลกปลอมออกมาใช้สิทธิก็อาจเป็นไปได้ว่ารายชื่อที่ไม่ถูกต้องนั้นเป็นเรื่องของความผิดพลาดในการจัดทำเอกสารธรรมดาๆ แต่หากบุคคลแปลกปลอมดังกล่าวเดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ก็น่าเชื่อได้ว่าอาจมีการทุจริตเลือกตั้ง ซึ่งก็เป็นเรื่องต้องตรวจสอบกันต่อไปว่าการทุจริตนั้นกระทำกันเป็นขบวนการหรือเปล่า และมีใครเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดบ้าง
"การสอบสวนหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ คงต้องเป็นหน้าที่ของ กกต.และสำนักงานเขตต่างๆ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และเป็นผู้จัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด ซึ่งต้องทำให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้สมัครทุกเบอร์" ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าว